รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานประชุมคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ เห็นชอบมาตรการสำคัญกระตุ้นอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยและต่างประเทศ
เผยแพร่เมื่อ 18 สิงหาคม 2568

รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานประชุมคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ เห็นชอบมาตรการสำคัญกระตุ้นอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยและต่างประเทศ
วันที่ 18 สิงหาคม 2568 เวลา 10.30 น. นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะรองประธานคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ ปฏิบัติหน้าที่ประธานการประชุมคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ ครั้งที่ 1/2568 แทนนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยมีนายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมประชุม ณ ศูนย์ประชุมกระทรวงวัฒนธรรม ชั้น 8 อาคารวัฒนธรรมวิศิษฏ์ และผ่านระบบ Zoom Cloud Meeting
ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบมาตรการสำคัญ เพื่อส่งเสริมและยกระดับศักยภาพของอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ไทย ดังนี้
อนุมัติการคืนเงินลงทุน (Cash Rebate) ให้แก่กองถ่ายทำต่างประเทศ จำนวน 7 เรื่อง รวมวงเงินกว่า 845 ล้านบาท จากเม็ดเงินลงทุนในประเทศกว่า 4,485 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยดึงดูดการลงทุนและสร้างรายได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทย
อนุมัติการคืนเงิน (Cash Rebate) สำหรับการผลิตภาพยนตร์ไทย ครอบคลุมทั้งภาพยนตร์ ละคร ซีรีส์ และมิวสิกวิดีโอ ที่มีทุนสร้างตั้งแต่ 20 ล้านบาทขึ้นไป โดยคืนเงินร้อยละ 15–30 เพื่อกระตุ้นการผลิตผลงานในประเทศ ยกระดับความสามารถในการแข่งขัน และนำเสนอภาพลักษณ์ของประเทศไทยสู่เวทีสากล
เห็นชอบมาตรการกระตุ้นอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ โดยสนับสนุนการคืนเงินร้อยละ 20 สำหรับการจ้างงานคนไทยด้านแอนิเมชันและวิชวลเอฟเฟกต์ (VFX) จากบริษัทต่างชาติ เพื่อเพิ่มการจ้างงานและพัฒนาทักษะบุคลากรไทยในสาขาที่มีความต้องการสูง
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มอบหมายให้กระทรวงวัฒนธรรมจัดตั้งคณะอนุกรรมการฯ เพื่อขับเคลื่อนมาตรการดังกล่าว พร้อมจัดทำรายละเอียดเสนอต่อคณะรัฐมนตรี รวมทั้งเห็นชอบรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ทดแทนตำแหน่งที่ว่าง และรับทราบความคืบหน้าในการแก้ไขพระราชบัญญัติภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. 2551 ตลอดจนการบูรณาการแผนงานส่งเสริมและเผยแพร่ผลงานทั้งในและต่างประเทศ
นายสรวงศ์ เทียนทอง กล่าวว่า
“มาตรการที่ที่ประชุมเห็นชอบในครั้งนี้ จะเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ของไทยเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สามารถแข่งขันได้ในระดับนานาชาติ อีกทั้งยังช่วยสร้างรายได้ กระตุ้นการลงทุน และพัฒนาบุคลากรไทยให้มีศักยภาพทัดเทียมกับมาตรฐานสากล”
