ข่าวสารล่าสุดจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมหารือภาคเอกชน ผลักดันไทยสู่ศูนย์กลางจัดแสดงสินค้าระดับโลก วันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 เวลา 09.00 น. ณ ห้องรับรอง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยนายจาตุรนต์ ภักดีวานิชอธิบดีกรมการท่องเที่ยว ได้ประชุมหารือร่วมกับผู้บริหารจาก บริษัท ลิฟวิ่ง ฟิล์ม จำกัด เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายการส่งเสริมของภาครัฐ และโอกาสในการสนับสนุนการท่องเที่ยวผ่านการพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการจัดแสดงสินค้าในภูมิภาคเอเชีย บริษัท ลิฟวิ่ง ฟิล์ม จำกัด ได้เปิดเผยถึงความร่วมมือกับ บริษัท Bridge to Asia จากประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดทำอีเว้นท์ โดยทั้งสองบริษัทได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยในฐานะจุดยุทธศาสตร์สำคัญของภูมิภาคเอเชีย พร้อมเสนอแนวทางในการจัดตั้งประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการจัดแสดงสินค้าชั้นนำระดับโลก การหารือในครั้งนี้นับเป็นการดึงดูดนักลงทุนและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก พร้อมสร้างความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางที่ตอบโจทย์ทั้งการท่องเที่ยวและการจัดกิจกรรมระดับนานาชาติ
วันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 เวลา 15.00 น. นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวง การท่องเที่ยวและกีฬา ได้รับมอบหมายจากนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2567 โดยมี คณะกรรมการนโยบายการกีฬาแห่งชาติ เข้าร่วมการประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง ในการประชุมครั้งนี้ ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบผลการศึกษาความเหมาะสมเพื่อเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ การแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอล FIVB Women’s World Championships 2025 ตามที่ได้มอบหมาย ให้การกีฬาแห่งประเทศไทยไปดำเนินการ ก่อนที่จะนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ การแข่งขันดังกล่าว กำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 22 สิงหาคม – 7 กันยายน 2568 มีทีมเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 32 ทีม ในเบื้องต้นกำหนดสถานที่จัดการแข่งขัน ณ จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดภูเก็ต จังหวัดนครราชสีมา และกรุงเทพมหานคร โดยประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในครั้งนี้ จะเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยสู่สายตาประชาคมโลก ผ่านการถ่ายทอดสดการแข่งขันฯ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวและนักลงทุนนานาชาติ ให้เห็นถึงศักยภาพความพร้อมของประเทศในทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะความเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและกีฬา อีกทั้ง ยังทำให้ประเทศไทยจะมีรายได้จากการใช้จ่ายเงินของนักกีฬา เจ้าหน้าที่ ผู้แทนองค์กรกีฬาต่างๆ และผู้สังเกตการณ์ รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางติดตามชมการแข่งขันอีกด้วย และได้เห็นชอบให้กรมพลศึกษาเลื่อนการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลนักเรียนโลก รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี รายการ ISF World School Championship Volleyball 2026 ออกไปก่อน เนื่องจาก ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องของแผนงบประมาณรายจ่าย และอัตราการเบิกค่าใช้จ่ายรายการต่าง ๆ ซึ่งจะต้อง ขอทำความตกลงกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะเดียวกันที่ประชุมก็ได้มีมติรับทราบรายงานผลการจัดการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอล Volleyball Nations League (VNL) รอบชิงชนะเลิศ 2024 ซึ่งสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย โดยการสนับสนุนจากการกีฬาแห่งประเทศไทยได้ดำเนินการจัดการแข่งขัน เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม – 23 มิถุนายน 2567 ซึ่งผลการจัดการแข่งขันดังกล่าว เหรียญทอง ได้แก่ สาธารณรัฐอิตาลี เหรียญเงิน ได้แก่ ประเทศญี่ปุ่น เหรียญทองแดง ได้แก่ สาธารณรัฐโปแลนด์ และอันดับ 8 ได้แก่ ราชอาณาจักรไทย นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้มีมติรับทราบผลการรายงานสถานการณ์การกีฬาของประเทศไทย ปี 2567 ซึ่งประกอบด้วย สถานการณ์การออกกำลังกายและเล่นกีฬาของประชากรทุกภาคส่วน สถานการณ์การพัฒนากีฬาสู่ความเป็นเลิศและกีฬาอาชีพ และสถานการณ์ด้านอุตสาหกรรมการกีฬาของไทย รวมถึงรับทราบแนวทางการจัดสรรงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2569 ของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ และปฏิทินงบประมาณรายจ่ายของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2569 เพื่อให้สามารถดำเนินการใช้จ่ายงบประมาณได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2568 เป็นต้นไป การประชุมในครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ด้านการกีฬา เพื่อให้ทุกหน่วยงานสามารถขับเคลื่อนภารกิจของตนและเกิดบูรณาการความร่วมมือระหว่างกัน เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานภายใต้แผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ 7 (พ.ศ. 2566 - 2570) ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จ
วันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 เวลา 13.30 น. นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมงานประกาศความสำเร็จ โครงการเดิน วิ่ง ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 พร้อมมอบโล่รางวัลเกียรติยศ “ด้านส่งเสริมให้ประชาชนออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเป็นวิถีชีวิต” ให้แก่ผู้แทนระดับกระทรวงจำนวน 3 รางวัล และระดับจังหวัดจำนวน 3 รางวัล นอกจากนี้ นายสรวงศ์ ยังได้ขึ้นรับโล่เกียรติคุณในนามหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่ร่วมสนับสนุนโครงการดังกล่าว โดยมี นายจักรพรรดิ์ คล่องพยาบาล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยตัวแทนภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมงาน ณ หอประชุมราชแพทยาลัย คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล โครงการนี้จัดขึ้นโดยศูนย์โรคหลอดเลือดสมองศิริราช ร่วมกับศิริราชมูลนิธิ ภายใต้โครงการ “แสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต” ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 10 โดยปีนี้มีความพิเศษ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันที่ 28 กรกฎาคม 2567 งานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ที่ทรงเป็นแบบอย่างของการรักษาสุขภาพและการออกกำลังกายให้กับประชาชนชาวไทย รวมถึงส่งเสริมความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคหลอดเลือดสมอง และเชิญชวนคนไทยให้หันมาออกกำลังกาย ภายใต้หัวข้อ “คนไทยสมองดี (Healthy Thais, Healthy Brains)” เพื่อให้ประชาชนไทยมีสุขภาพที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจ ซึ่งจะนำไปสู่ความเข้มแข็งของประเทศในระยะยาว นายสรวงศ์ กล่าวว่า “กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาให้ความสำคัญกับการส่งเสริมสุขภาพของประชาชนผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย การที่ทุกภาคส่วนร่วมมือกันขับเคลื่อนโครงการนี้ถือเป็นตัวอย่างที่ดีของการสร้างความตระหนักรู้และส่งเสริมวิถีชีวิตที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคอัมพาตแล้วยังเป็นการพัฒนาศักยภาพของประเทศในด้านสุขภาพอีกด้วย” งานครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และเครือข่ายพันธมิตร จนประสบความสำเร็จอย่างงดงาม สะท้อนถึงความร่วมมือที่เข้มแข็งในการส่งเสริมสุขภาพของประชาชนไทยให้แข็งแรงอย่างยั่งยืน
วันที่ 18 กรกฎาคม 2567 เวลา 10.00 น. นาย Robert F. Godec เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย พร้อมด้วยกงสุลใหญ่ Kathryn L. Flachsbart และคณะเจ้าหน้าที่ ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ณ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยมี นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ นายจักรพรรดิ์ คล่องพยาบาล ที่ปรึกษารัฐมนตรีฯ นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรีฯ และ พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เข้าร่วมการหารือเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือด้านการท่องเ+ที่ยวและกีฬา ระหว่างประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา โดยมีประเด็นสำคัญในการหารือ ดังนี้ 1. การแสดงความยินดีจากเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ นาย Robert F. Godec แสดงความยินดีที่ประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็น Destination of the Year 2025 จากนิตยสาร Travel and Leisure พร้อมแสดงความยินดีที่นายสรวงศ์ได้เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา โดย รมว.กก ได้กล่าวเชิญชวนให้เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ และคณะเข้าร่วมงานเทศกาลท่องเที่ยวต่างๆ ที่กระทรวงฯ และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดขึ้นในปลายปีนี้ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว 2. การส่งเสริมกิจกรรมทางการกีฬา Amazing Thailand Marathon Bangkok 2024 รัฐมนตรีฯ กล่าวถึงการจัดงาน Amazing Thailand Marathon Bangkok 2024 ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ โดยมีนักวิ่งระดับโลก Mr. Eliud Kipchoge เข้าร่วมแข่งขันและกิจกรรมพิเศษต่างๆ ซึ่ง เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ กล่าวแสดงความชื่นชมและยืนยันว่าจะเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย 3. ความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ได้แสดงความห่วงใยต่อประเด็นความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะอุบัติเหตุบนท้องถนนและการคุกคามนักท่องเที่ยว รวมถึงความมีประสิทธิภาพ ในการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยรัฐมนตรีได้ให้คำมั่นว่าจะดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ พร้อมใช้เทคโนโลยีช่วยในการบริหารจัดการและพัฒนามาตรการดูแลความปลอดภัย รวมถึง ขอความร่วมมือจากสถานทูตฯ ในการประชาสัมพันธ์เรื่องการขับขี่ยานพาหนะให้แก่นักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน 4. การเก็บค่าธรรมเนียมท่องเที่ยวและนโยบายวีซ่า รมว. สรวงศ์ ได้อธิบายถึงนโยบายการเก็บค่าธรรมเนียมท่องเที่ยวในอัตรา 300 บาทต่อคน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการจัดทำประกันภัยให้แก่นักท่องเที่ยว และบำรุงรักษาทรัพยากรด้านการท่องเที่ยวของไทย ซึ่งคาดว่าจะเริ่มจัดเก็บภายในปี 2568 นอกจากนี้ ยังได้ชี้แจงประเด็นเรื่องนโยบายฟรีวีซ่า และการดำเนินการป้องกันอาชญากรรมจากการใช้ประโยชน์นโยบายดังกล่าวในทางที่ผิด 5. ประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ในการหารือยังมีประเด็นเพิ่มเติมอื่น ๆ เช่น การบริหารจัดการกรณีเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ การถ่ายทำซีรีย์ White Lotus Season 3 ในประเทศไทย ปัญหาแรงงานในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ความคืบหน้าในการเปิดเส้นทางบินตรงระหว่างไทย-สหรัฐฯ และการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงกีฬา โดยทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อมูล และยืนยันความตั้งใจในการสนับสนุนและพัฒนากิจกรรมเหล่านี้
วันที่ 17 พฤศจิกายน 2567 เวลา 13.30 น. นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่เกาะกูด จังหวัดตราด เพื่อรับฟังปัญหา อุปสรรค และความต้องการจากผู้ประกอบการในพื้นที่ โดยมีการพูดคุยอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับประเด็นสำคัญที่ส่งผลต่อการพัฒนาการท่องเที่ยวในพื้นที่ ปัญหาที่ผู้ประกอบการสะท้อน : ผู้ประกอบการในเกาะกูดได้สะท้อนปัญหาหลายด้าน เช่น ปัญหาไกด์เถื่อน ผู้ประกอบการไม่มีใบอนุญาต ข้อจำกัดด้านสาธารณูปโภค เช่น ไฟส่องสว่าง การคมนาคมขนส่ง และสัญญาณโทรศัพท์ รวมถึงการบริหารจัดการจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูท่องเที่ยวสูง (High Season) ที่เกินขีดความสามารถของพื้นที่ นอกจากนี้ยังต้องการให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาช่วยประชาสัมพันธ์ศักยภาพของเกาะกูดให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพและเสริมสร้างเศรษฐกิจท้องถิ่น รมว.ท่องเที่ยวฯ ย้ำพร้อมแก้ปัญหาและพัฒนาเกาะกูดสู่ High End Tourism : นายสรวงศ์ เทียนทอง กล่าวภายหลังการประชุมว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพร้อมประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทยในเรื่องที่ดินทำกิน กรมเจ้าท่าในเรื่องการคมนาคมขนส่ง และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อยกระดับการพัฒนาเกาะกูด นอกจากนี้ กรมการท่องเที่ยวจะดำเนินการแก้ไขปัญหาไกด์เถื่อนและทัวร์เถื่อน พร้อมส่งเสริมการอบรมมัคคุเทศก์ท้องถิ่นให้มีจำนวนเพิ่มขึ้น และผลักดันผู้ประกอบการนอกระบบให้เข้าสู่ระบบอย่างถูกต้อง “ทรัพยากรของเกาะกูดยังมีความบริสุทธิ์ และมีศักยภาพสูงในการรองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือต่างชาติ กระทรวงจะเร่งดำเนินการป้องกันปัญหาผิดกฎหมาย พร้อมพัฒนาและยกระดับผู้ประกอบการในพื้นที่ให้เติบโตไปพร้อมกับการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน” รัฐมนตรีกล่าว รมว.สรวงศ์ ชวนเที่ยวเกาะกูด : นายสรวงศ์ ยังเชิญชวนนักท่องเที่ยวว่า “เกาะกูดไม่มีปัญหาจริงๆ ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทั้งชาวไทยและต่างชาติ มาสัมผัสความสวยงามของเกาะกูด การเดินทางสะดวกสบาย และที่สำคัญขอให้ทุกคนช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมของเราไว้ มาแล้วคุณจะติดใจ ถ้าไทยไม่เที่ยวไทย แล้วใครจะมาช่วยเรา ไทยต้องช่วยไทย ไม่มีใครช่วยเราได้” การลงพื้นที่ในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวไทยให้เป็นที่ยอมรับระดับโลก พร้อมผลักดันเกาะกูดให้ก้าวสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ High End อย่างยั่งยืน
วันที่ 17 พฤศจิกายน 2567 นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยทีมงานผู้บริหารระดับสูง อาทิ นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ และโฆษกกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายจักรพรรดิ์ คล่องพยาบาล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว นาวาอากาศเอก อธิคุณ คงมี ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ร่วมกันลงพื้นที่เกาะกูด จังหวัดตราด โดยมี นายณัฐพงษ์ สงวนจิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด พ.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ มูลศาสตร์ สว.ส.ทท 6 กก.2 บก.ทท.1 บช.ทท. ให้การต้อนรับ ช่วงเช้า เวลา 10.30 น. นายสรวงศ์เป็นประธานการประชุมร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและผู้ประกอบการท้องถิ่น เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาเกาะกูดสู่แหล่งท่องเที่ยวระดับ High End โดยเน้นแนวทางการส่งเสริม sports tourism และ wellness green tourism เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับพื้นที่ พร้อมผลักดันเกาะกูดให้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม premium destination ร่วมกับเกาะใกล้เคียงในจังหวัดตราด ในที่ประชุมมีข้อเสนอแนะหลายประการ อาทิ การพัฒนาสินค้าท้องถิ่นให้เป็นสินค้าพรีเมียม การอบรมเพิ่มพูนทักษะให้แก่มัคคุเทศก์ในพื้นที่ และการดึงผู้ประกอบการนอกระบบเข้าสู่ระบบ เพื่อสร้างงานและเพิ่มมาตรฐานบริการให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการวางแผนเพื่อส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวพักค้างคืนในพื้นที่นานขึ้นและใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างยั่งยืน นายสรวงศ์กล่าวว่า “การพัฒนาเกาะกูดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ High End เป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดตราด เราจะร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อให้การพัฒนานี้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนในพื้นที่” กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬายืนยันจะเดินหน้าผลักดันแผนงานดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นความร่วมมือแบบบูรณาการระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาชนในพื้นที่ เพื่อสร้างแหล่งท่องเที่ยวที่ยั่งยืนและสร้างมูลค่าให้กับประเทศไทยในเวทีโลก
วันที่ 16 พฤศจิกายน 2567 เวลา 18.00 น. ณ ไอคอนสยาม นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดงาน “VIJIT CHAO PHRAYA 2024” กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เนรมิตปรากฏการณ์แห่งแสง สี ริมแม่น้ำเจ้าพระยาสุดยิ่งใหญ่กับการจัดงาน “VIJIT CHAO PHRAYA 2024” ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน – 15 ธันวาคม 2567 เวลา 18.00 – 22.00 น. กระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวส่งท้ายปี ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติเข้าร่วมงาน ตั้งเป้าสร้างรายได้หมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท โดยมี นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายจักรพรรดิ์ คล่องพยาบาล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, พลตำรวจโท ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว, นางวันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร, นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท., คณะทูตานุทูตประเทศต่าง ๆ ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และพันธมิตรร่วมเปิดงาน นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า รัฐบาลมุ่งสร้างบรรยากาศแห่งความสุข และการเฉลิมฉลองในช่วงปลายปี ด้วยการจัดงาน “VIJIT CHAO PHRAYA 2024” ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน – 15 ธันวาคม 2567 เวลา 18.00 - 22.00 น. ซึ่งเป็นหนึ่งในบิ๊กอีเวนต์สำคัญภายใต้เทศกาล Thailand Winter Festivals 2024 ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย ททท. ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชนจัดขึ้นเพื่อสร้างบรรยากาศและสีสันให้กับแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยแสงไฟและการแสดงทางวัฒนธรรมในยามค่ำคืน ให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้มาร่วมชื่นชมความงดงามของแลนด์มาร์คประเทศไทยริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่แสดงถึงศิลปวัฒนธรรมไทยแบบดั้งเดิม และสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ พร้อมด้วยแสงสีตระการตาที่จะมาเพิ่มเสน่ห์ให้กับกรุงเทพมหานคร และสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนยิ่งกว่าเดิม รวมถึงสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการเรืออาหาร เรือนำเที่ยว โรงแรม ที่พัก ตลอดจนร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยคาดว่าการจัดงานในครั้งนี้จะสร้างรายได้หมุนเวียนทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท
วันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 ณ คลองผดุงกรุงเกษม (ย่านหัวลำโพง) กรุงเทพมหานคร นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับ นางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงฯ และ นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดงานเทศกาล “สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง” ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมสำคัญของ Thailand Winter Festival 2024 ภายใต้แนวคิด “Seven Wonders of Thailand” ที่ประกอบด้วยการลอยกระทง การส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ กิจกรรมกีฬา กิจกรรมวัฒนธรรม เทศกาลอาหาร เทศกาลดนตรี และเทศกาลแสงสี ซึ่งทั้งหมดนี้สร้างบรรยากาศแห่งความสุขและมอบประสบการณ์พิเศษให้กับคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ผ่านการนำเสนอมรดกทางวัฒนธรรมไทยที่ผสมผสานกับศิลปะและเทคโนโลยีสมัยใหม่ ปีนี้ ททท. ได้เนรมิตคลองผดุงกรุงเกษมให้กลายเป็นบรรยากาศแห่งความสุขและความสวยงาม โดยจัดงานในแนวคิด “Amazing Night of Lights : Loi Krathong Festival” เพื่อเฉลิมฉลองประเพณีลอยกระทง และส่งเสริมยกระดับเทศกาลงานประเพณีไทยสู่งานระดับโลก (Local to Global) ด้วยขบวนแห่ประเพณีลอยกระทงและนางนพมาศทางน้ำที่งดงาม โดยมีไฮไลท์คือการปรากฏตัวของ ‘ญาญ่า – อุรัสยา เสปอร์บันด์’ ซึ่งจะนำขบวนแห่ เพื่อสนับสนุนการลอยกระทงแบบวิถีใหม่ที่คำนึงถึงความยั่งยืนทั้งทางวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม งานลอยกระทงครั้งนี้ยังจัดกิจกรรมแบบ Interactive มากมาย เช่น กิจกรรม DIY ทำกระทงจากวัสดุธรรมชาติ เช่น โคมล้านนา กระทงกะลามะพร้าว กระทงใบลาน และกระทงรวงข้าว นอกจากนี้ยังมีการประกวดกระทงรักษ์โลก ประเภท On Ground และ Online เพื่อส่งเสริมการประดิษฐ์กระทงจากวัสดุธรรมชาติและย่อยสลายได้ รวมถึงกิจกรรมเสริมสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การสาธิตการทำพัดสานจากชุมชนท่องเที่ยว เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มีส่วนร่วมในประเพณีไทยอย่างยั่งยืน ททท. คาดการณ์ว่าการจัดงานในพื้นที่กรุงเทพมหานครจะมีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยประมาณ 330,450 คน-ครั้ง สร้างรายได้ถึง 1,371 ล้านบาท ในขณะที่ช่วงเทศกาลลอยกระทงทั่วประเทศ คาดว่าจะมีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยประมาณ 1.99 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 จากปีที่ผ่านมา และสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวรวม 6,990 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 เมื่อเทียบกับปี 2566 โดยภาคเหนือคาดว่าจะมีผู้เยี่ยมเยือนมากที่สุดประมาณ 568,740 คน-ครั้ง สร้างรายได้รวม 2,556 ล้านบาท งานเทศกาลลอยกระทงปีนี้ นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในการส่งเสริมเทศกาลประเพณีไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ พร้อมกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมไทยให้ยั่งยืนในอนาคต
รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เข้าร่วมงานประเพณีลอยกระทง จังหวัดสุโขทัย วันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 ดร.วนิดา พันธ์สอาด รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้รับมอบหมายจากนางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้เข้าร่วมในงานประเพณีลอยกระทง "เผาเทียน เล่นไฟ" จังหวัดสุโขทัย ประจำปี 2567 ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธี งานประเพณีลอยกระทงสุโขทัยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-17 พฤศจิกายน 2567 มีการจัดกิจกรรมหลากหลาย เช่น การแสดงแสงเสียง การแสดงศิลปวัฒนธรรม การประกวดนางนพมาศ และการลอยพระประทีปพระราชทาน ซึ่งสะท้อนถึงความงดงามทางวัฒนธรรมและส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทยอย่างยั่งยืน ในโอกาสเดียวกันนี้ ดร.วนิดา ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงาน และให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว (TAC) และเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกและให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวตลอดการจัดงาน เพื่อสร้างความมั่นใจและประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มาร่วมสัมผัสเสน่ห์ของงานประเพณีลอยกระทงในครั้งนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาขอเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมงานเพื่อสัมผัสประสบการณ์สุดประทับใจ พร้อมสนับสนุนการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสืบสานประเพณีไทยให้คงอยู่คู่สังคมไทยตลอดไป
วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน 2567 เวลา 09.30 น. นายสันติ ป่าหวาย หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกำหนดแผนและติดตามผลการตรวจราชการของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ครั้งที่ 1/2567 ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในการนี้มีหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เข้าร่วมประชุม อาทิ กรมพลศึกษา, กรมการท่องเที่ยว, กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, การกีฬาแห่งประเทศไทย, องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน(องค์การมหาชน) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยที่ประชุมได้สรุปสาระสำคัญ คือ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้พิจารณาคัดเลือกแผนงาน/โครงการที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณหรือประเด็นสำคัญได้ขับเคลื่อนการดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ที่สอดคล้องกับ นโยบายของรัฐบาล ยุทธศาสตร์ชาติ/แผนแม่บท และนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีกรอบแนวทางในการคัดเลือก ดังนี้ - เป็นแผนงานโครงการ/ประเด็นสำคัญที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล - เป็นแผนงาน/โครงการ/ประเด็นสำคัญในการขับเคลื่อนการบรรลุเป้าหมาย (white triangle right) เป็นแผนงานโครงการ/ประเด็นสำคัญที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐมนตรีว่าการฯ - เป็นแผนงานโครงการ/ประเด็นสำคัญที่สอดคล้องกับประเด็นการตรวจราชการ - เป็นแผนงาน/โครงการที่มีงบประมาณสูง ซึ่งมีพื้นที่ดำเนินการครอบคลุมหลายจังหวัดหรือทั่วประเทศ และเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน - โครงการที่ได้รับการคัดเลือกให้บรรจุในแผนการตรวจราชการของผู้ตรวจราชการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 มีจำนวน 20 โครงการ
ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตรวจเยี่ยมศูนย์บริการนักท่องเที่ยวและชายหาดบางแสน จ.ชลบุรี ย้ำความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่น วันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 เวลา 15.30 น. นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเทศบาลเมืองแสนสุข และบริเวณชายหาดบางแสน จังหวัดชลบุรี โดยมีหัวหน้าส่วนราชการและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น การลงพื้นที่ตรวจความพร้อมครั้งนี้ นายจักรพลได้กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการบริการแก่นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไฮซีซั่นซึ่งชายหาดบางแสนจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก นายจักรพลเน้นว่าศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเทศบาลเมืองแสนสุขเป็นส่วนสำคัญในการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว การช่วยเหลือ หรือบริการต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ดี นายจักรพลยังได้กล่าวถึงผลกระทบเชิงบวกที่ชายหาดบางแสนมีต่อเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยการท่องเที่ยวในพื้นที่จะช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยให้กับผู้ประกอบการร้านค้าและร้านอาหารในบริเวณชายหาด โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ซึ่งมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาเยี่ยมชม นอกจากนี้ นายจักรพลได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเป็นอันดับหนึ่ง โดยเฉพาะในด้านมาตรการป้องกันและช่วยเหลือเพื่อให้การท่องเที่ยวเป็นไปอย่างปลอดภัยและราบรื่น “ความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกที่เราจะต้องใส่ใจ เพื่อให้นักท่องเที่ยวทุกคนสามารถเพลิดเพลินกับการพักผ่อนที่ชายหาดบางแสนได้อย่างสบายใจ” นายจักรพล กล่าวทิ้งท้าย
นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดตัวแคมเปญ “Tops X Moo Deng & Friends” ณ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จ.ชลบุรี วันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 เวลา 13.00 น. ณ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จังหวัดชลบุรี นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เป็นประธานในพิธีแถลงข่าวเปิดตัวแคมเปญ “Tops X Moo Deng & Friends” ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล และองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยมีผู้เข้าร่วมงานสำคัญ อาทิ นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายอรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ฯ และนายนรงวิทย์ ชดช้อย ผู้อำนวยการสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ตลอดจนสื่อมวลชนและแฟนคลับของหมูเด้งร่วมเป็นสักขีพยานในงาน นายจักรพลกล่าวว่า กระแส “หมูเด้งฟีเวอร์” ได้เริ่มต้นจากการสร้างสรรค์คอนเทนต์ผ่านโซเชียลมีเดียของคุณเบนซ์ อรรถพล ผู้ดูแลหมูเด้ง ซึ่งทำให้หมูเด้งเป็นที่รู้จักและได้รับความสนใจในวงกว้าง ทั้งจากนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้รับการสนับสนุนจากองค์การสวนสัตว์ฯ และสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ที่ร่วมมือกับภาคเอกชนผ่านแคมเปญ “Tops X Moo Deng & Friends” เพื่อต่อยอดกระแสให้เกิดการรับรู้ในระดับสากล นายจักรพลยังเสริมว่า ความสำเร็จของหมูเด้งได้มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนสวนสัตว์เปิดเขาเขียว และส่งผลต่อการสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น โดยแคมเปญนี้คาดว่าจะมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี และเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สร้างสีสันให้กับการท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรีอย่างยั่งยืน