ข่าวสารล่าสุดจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ทัพนักเรียนไทยร่วมชิงชัยในการแข่งขัน ISF Gymnasiade Bahrain 2024 วันที่ 24 ตุลาคม 2567 ณ กรุงมานามา ราชอาณาจักรบาห์เรน พระบาทสมเด็จพระราชาธิบดีฮามัด บิน อีซา อัล คอลิฟะห์ แห่งราชอาณาจักรบาห์เรน ทรงมอบหมายให้เจ้าชายคอลิด บิน ฮามัด อัล คอลิฟะห์ รองประธานสภาสูงสุดด้านเยาวชนและกีฬา ประธานคณะกรรมการกีฬาแห่งชาติ และประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งบาห์เรน เป็นผู้แทนพระองค์ในการเป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโรงเรียนโลกรายการ ISF Gymnasiade Bahrain 2024 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-31 ตุลาคม 2567 พิธีเปิดจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ โดยมี ดร.วนิดา พันธ์สอาด รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทย พร้อมด้วย ดร.นิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ กรรมการบริหารสหพันธ์ฯ ผู้แทนกรมพลศึกษา และนักกีฬานักเรียนจากหลายประเทศทั่วโลกเข้าร่วมในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความภาคภูมิใจ การแข่งขันครั้งนี้ถือเป็นเวทีสำคัญในการส่งเสริมพัฒนาศักยภาพของเยาวชนในด้านกีฬาสู่ระดับชาติ และนานาชาติต่อไป ในวันที่ 25 และ 26 ตุลาคม 2567 ดร.วนิดา พันธ์สอาด รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย ดร.นิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ กรรมการบริหารสหพันธ์ฯ ได้เดินทางมาให้กำลังใจคณะนักกีฬาทีมชาติไทย ซึ่งทัพกรีฑานักเรียนไทยได้แสดงศักยภาพโดดเด่นในวันแรกของการแข่งขัน โดยมีนักวิ่งไทย 2 คนผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศในรายการวิ่ง 100 เมตรชาย ได้แก่ นายชุติทัศน์ พฤกษ์สรนันทน์ และ นายวีรยุทธ แดนขนบ ซึ่งถือเป็นผลงานที่น่าภาคภูมิใจของทีมชาติไทย ขณะเดียวกัน ทีมว่ายน้ำไทยยังได้โชว์ฟอร์มดีเช่นกัน โดยมีนักกีฬาผ่านการคัดตัวเข้าชิงในสองรายการ โดย นางสาวมีอา มิลลาร์ จบอันดับที่ 8 ในการแข่งขันท่ากรรเชียง 100 เมตรหญิง ด้วยเวลา 1.06.44 นาที และ นางสาววนิชญา ตั้งธนทรัพย์ จบอันดับที่ 8 ในรายการว่ายกบ 50 เมตรหญิง ด้วยเวลา 34.43 วินาที ล่าสุด นายศราวุฒิ นวลศรี นักวิ่งนักเรียนไทย สามารถสับเท้าเข้าเส้นชัยคว้าเหรียญเงิน เป็นเหรียญแรกแก่ทัพนักกีฬาไทย ในรายการวิ่ง 400 ม. ชาย สำหรับการแข่งขันในวันพรุ่งนี้ ทัพนักกีฬานักเรียนไทยจะลงชิงชัยในรายการกรีฑา ว่ายน้ำ และบาสเกตบอล 3x3 ในรอบแรก ส่วนกีฬาเทควันโดจะเริ่มการแข่งขันในวันที่ 28 ตุลาคม 2567 การแข่งขัน ISF Gymnasiade Bahrain 2024 เป็นการรวมตัวของนักกีฬานักเรียนจากทั่วโลก โดยจะเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้นักกีฬาเยาวชนได้แสดงศักยภาพและพัฒนาฝีมือในระดับนานาชาติ
รมว.สรวงศ์ พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เฝ้ารับเสด็จฯ ในหลวง พระราชินี เสด็จฯ ถวายผ้าพระกฐินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ณ สวนหลวงพระราม 8 วันที่ 27 ตุลาคม 2567 เวลา 15.00 น. นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยนางญาณิกา เทียนทอง ภริยา และคณะผู้บริหารกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้แก่ นางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายมงคล วิมลรัตน์ รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว, และนายจรูญ แก้วมุกดากุล รองอธิบดีกรมพลศึกษา รักษาราชการแทนอธิบดีกรมพลศึกษา ได้เฝ้ารับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ณ บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 8 สวนหลวงพระราม 8 ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวราราม โดยเสด็จฯ ทางขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ขบวนพยุหยาตราทางชลมารคครั้งนี้ จัดขึ้นอย่างงดงามตามโบราณราชประเพณี โดยมีเรือพระราชพิธีรวม 52 ลำ ประกอบด้วยริ้วขบวน 5 ริ้ว 3 สาย พร้อมกำลังพลประจำเรือจำนวน 2,412 นาย ซึ่งในจำนวนนี้ 2,200 นายเป็นฝีพาย ขบวนเรือทั้งหมดสร้างความประทับใจให้กับประชาชนทั้งสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่มารอชมความสง่างามและความยิ่งใหญ่ของประเพณีที่มีมาช้านานของชาติไทย นายสรวงศ์ เทียนทอง ได้กล่าวแสดงความภาคภูมิใจในฐานะที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมและอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชาติไทย ที่มีหนึ่งเดียวในโลก พร้อมชื่นชมถึงความสำคัญของงานพระราชพิธีในครั้งนี้ ซึ่งเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยววัฒนธรรมของประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล
รมว. สรวงศ์ พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมงาน "เทศกาลขนหัวลุก ตลาดขนลุก Goosebump Market" ณ โรงงานมักกะสัน รฟท. กรุงเทพฯ วันที่ 26 ตุลาคม 2567 นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นำคณะผู้บริหารกระทรวงฯ เข้าร่วมงาน "เทศกาลขนหัวลุก ตลาดขนลุก Goosebump Market" ณ โรงงานมักกะสัน การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กรุงเทพฯ โดยมีนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นประธานในพิธีเปิดงาน พร้อมด้วยนายจักรพรรดิ์ คล่องพยาบาล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว, และนาวาอากาศเอก อธิคุณ คงมี ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ร่วมงานอย่างคับคั่ง งาน "เทศกาลขนหัวลุก ตลาดขนลุก Goosebump Market" จัดโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ระหว่างวันที่ 26-31 ตุลาคม 2567 ที่โรงงานมักกะสัน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยสายศรัทธาและสร้างประสบการณ์ใหม่แก่ผู้ร่วมงาน ต่อยอดจากความสำเร็จของเทศกาลขนหัวลุกที่เคยจัดในจังหวัดเชียงใหม่และอยุธยา โดยมีการคาดการณ์ว่าจะสามารถกระตุ้นรายได้เข้าพื้นที่ถึง 300 ล้านบาท กิจกรรมภายในงานมีความหลากหลายและน่าตื่นเต้น โดยมี 8 กิจกรรมหลัก ได้แก่ การช้อปสินค้าสายมูเพื่อเสริมดวงชะตา, การลิ้มลองอาหารสุดพิเศษ, การเพลิดเพลินกับงานวัดย้อนยุค, การไหว้ขอพรโชคลาภ, การพยากรณ์ดวงจากหมอดูชื่อดัง, การชมหนังกลางแปลงสุดสยอง และการแสดงดนตรีบนเวทีที่เพิ่มความระทึกใจให้กับผู้เข้าร่วมงาน นายสรวงศ์ เทียนทอง กล่าวแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสร่วมงานครั้งนี้ และเน้นย้ำถึงความสำคัญของการส่งเสริมการท่องเที่ยวในรูปแบบใหม่ๆ ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างความสนุกสนานและน่าตื่นเต้นให้กับนักท่องเที่ยว แต่ยังส่งเสริมวัฒนธรรมและความเชื่อในท้องถิ่น พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน
รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ยืนยันความพร้อมการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในการประชุม SEAGF วันที่ 25 ตุลาคม 2567 เวลา 13.30 น. นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ได้เข้าร่วมการประชุมสหพันธ์กีฬาซีเกมส์ (SEAGF) ครั้งที่ 2 ณ สำนักงานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย กรุงเทพฯ โดยมีผู้แทนระดับสูงจากประเทศสมาชิกเข้าร่วม ในการประชุมครั้งนี้ นายสรวงศ์ได้กล่าวต้อนรับคณะผู้แทนสหพันธ์กีฬาซีเกมส์ พร้อมทั้งยืนยันถึงความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-19 ธันวาคม 2568 โดยระบุว่า ประเทศไทยได้เตรียมการในทุกๆ ด้านอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐาน สนามกีฬา การคมนาคม และที่พัก เพื่อให้การแข่งขันครั้งนี้เป็นไปอย่างราบรื่นและยิ่งใหญ่ นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการจัดการแข่งขันในลักษณะ “Green Sports Event” เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตามแนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืน รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวเพิ่มเติมว่า การแข่งขันครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการชิงชัยทางกีฬา แต่ยังเป็นการแสดงออกถึงมิตรภาพและความสามัคคีของประชาคมอาเซียน ซึ่งประเทศไทยพร้อมต้อนรับนักกีฬา เจ้าหน้าที่ และผู้แทนจากประเทศต่างๆ อย่างอบอุ่น ในช่วงท้าย รมว.สรวงศ์ ได้กล่าวแสดงความมั่นใจว่าการประชุมครั้งนี้จะประสบความสำเร็จ และขอเชิญชวนทุกประเทศสมาชิกทำงานร่วมกันเพื่อสร้างสรรค์ความแข็งแกร่งให้กับประชาคมกีฬาอาเซียนต่อไป พร้อมทั้งขอให้ผู้เข้าร่วมการประชุมทุกท่านมีความสุขในระหว่างการพักผ่อนที่กรุงเทพฯ
รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เชิญชวนประชาชนร่วมงาน Amazing Thailand Diwali Festival Bangkok 2024 ต้อนรับเทศกาลแห่งแสงสว่างสไตล์อินเดีย วันที่ 25 ตุลาคม 2567 เวลา 11.00 น. นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในงานแถลงข่าวเปิดตัวเทศกาล "Amazing Thailand Diwali Festival Bangkok 2024" ซึ่งจัดขึ้น ณ โรงแรมแรมแบรนดท์ กรุงเทพมหานคร โดยมีผู้บริหารระดับสูง อาทิ นายจักรพรรดิ์ คล่องพยาบาล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรี และนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เข้าร่วม นายสรวงศ์กล่าวในงานแถลงข่าวว่า “ในนามของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผมรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้เห็นเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ระดับนานาชาติอย่าง Diwali Festival ได้จัดขึ้นในกรุงเทพมหานคร เทศกาลนี้ไม่เพียงเป็นการเชื่อมโยงมิตรภาพระหว่างไทยและอินเดีย แต่ยังเป็นการเสริมสร้างเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของเราโดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจากตลาดอินเดีย ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย” นอกจากนี้ นายสรวงศ์ยังกล่าวว่า ในปีหน้า ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่การประกาศเป็น "Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year" ซึ่งมุ่งหมายให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสำหรับการจัดงานระดับโลก และการจัดงานเทศกาล Diwali ในครั้งนี้ จะช่วยกระตุ้นความสนใจจากนักท่องเที่ยวชาวอินเดียมากยิ่งขึ้น รวมทั้งส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในด้านศาสนาและวัฒนธรรมพหุสังคม เทศกาล Diwali หรือ "เทศกาลแห่งแสงสว่าง" เป็นหนึ่งในงานสำคัญระดับโลกที่มีรากฐานมาจากวัฒนธรรมอินเดีย จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการขจัดความมืดสู่ความสว่าง โดยในปีนี้ เทศกาล Diwali ในกรุงเทพฯ จะจัดขึ้นเป็นปีที่ 3 ในย่านลิตเติ้ลอินเดีย ซึ่งจะเป็นจุดสำคัญในการเชื่อมความสัมพันธ์ทางการทูตและการค้าระหว่างไทยและอินเดีย พร้อมทั้งเสริมสร้างพื้นที่พาหุรัด-คลองโอ่งอ่าง ให้กลายเป็นแลนด์มาร์ควัฒนธรรมไทย-อินเดียแห่งแรกของประเทศไทย พิธีเปิดงานจะมีขึ้นในวันที่ 29 ตุลาคม 2567 โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ร่วมด้วยนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี และบุคคลสำคัญจากภาครัฐและเอกชน ประชาชนสามารถร่วมสัมผัสกับกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดทั้งสัปดาห์ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงเชิงวัฒนธรรมบอลลีวูด การออกร้านจำหน่ายอาหารและสินค้าสไตล์อินเดีย รวมถึงพิธีบูชาพระพิฆเนศและพระแม่ลักษมี เสริมความสำเร็จและโชคลาภ “ผมขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกท่านเข้าร่วมงานเฉลิมฉลองเทศกาล Diwali ครั้งนี้ และขอให้เทศกาลแห่งแสงสว่างนี้นำพาความสุขและความรุ่งเรืองมาสู่ทุกท่าน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวปิดท้า
ผู้ช่วย รมว.ท่องเที่ยวฯ ร่วมปาฐกถาในงาน Exhibition Industry Summit 2024 หนุนไทยสู่ศูนย์กลางการจัดงานระดับโลก วันที่ 25 ตุลาคม 2567 เวลา 11.00 น. นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้เข้าร่วมปาฐกถาในงาน "Exhibition Industry Summit 2024" งานประชุมที่จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมการจัดแสดงสินค้านานาชาติ โดยมีผู้บริหารระดับสูงจากสำนักงานใหญ่ของบริษัทผู้จัดงานแสดงสินค้าชั้นนำจากต่างประเทศกว่า 20 บริษัท เข้าร่วมประชุม งานนี้มีเป้าหมายหลักในการสร้างความร่วมมือระหว่างผู้จัดงานแสดงสินค้านานาชาติกับผู้บริหารระดับสูงของรัฐบาลไทยและหน่วยงานภาคเอกชน โดยมุ่งหวังให้ประเทศไทยกลายเป็นหมุดหมายสำคัญในการจัดงานอีเว้นท์ขนาดใหญ่ระดับโลกภายใต้โครงการ “IGNITE THAILAND” เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการจัดงานระดับสากล นายจักรพล กล่าวในปาฐกถาว่า “ประเทศไทยมีศักยภาพอย่างยิ่งในการเป็นศูนย์กลางของการจัดงานอีเว้นท์ระดับนานาชาติ ไม่เพียงแต่ด้วยทำเลที่ตั้งที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก แต่ยังรวมถึงความพร้อมในด้านโครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคม และการสนับสนุนจากภาครัฐ ที่พร้อมดึงดูดการลงทุนและงานแสดงสินค้าที่มีความสำคัญระดับโลกเข้ามาจัดในประเทศไทย ” ทั้งนี้ นายจักรพล ได้เสนอนโยบายด้านการท่องเที่ยวและกีฬาในประเด็น - การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการท่องเที่ยวแบบ High-End Tourism การสร้างการบริการที่เน้นความยั่งยืน - ความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว ทั้งตำรวจท่องเที่ยวและการเยียวยานักท่องเที่ยว - ความยั่งยืนด้านการท่องเที่ยว BCG Tourism/Low Carbon Tourism - ความหลากหลายของการท่องเที่ยวและกีฬา เช่น การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การท่องเที่ยวเชิงอาหาร E-Sport และการส่งเสริม MICE Tourism การจัดงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สามารถสร้างรายได้มหาศาลให้กับประเทศ รวมถึงช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวและการจัดอีเว้นท์ขนาดใหญ่ ซึ่งจะช่วยสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักในเวทีโลกในฐานะจุดหมายปลายทางสำหรับงานอีเว้นท์ระดับ World Class การประชุมในครั้งนี้ยังเป็นเวทีสำคัญในการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจ แนวโน้มการลงทุนในอุตสาหกรรมอีเว้นท์ รวมถึงการเปิดโอกาสให้ผู้จัดงานแสดงสินค้าจากต่างประเทศได้เข้าถึงข้อมูลและทราบถึงความพร้อมของประเทศไทยในการรองรับการจัดงานในอนาคต
"วิ่งฝ่าเมือง ครั้งที่ 7" อะเมซิ่งไทยแลนด์มาราธอนแบงค็อก กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานคร สมาคมกรีฑาโลก การกีฬาแห่งประเทศไทย และไทยแลนด์ไตรลีก แถลงข่าวความพร้อมการจัดการแข่งขันวิ่งมาราธอนส่งเสริมการท่องเที่ยว "วิ่งฝ่าเมือง ครั้งที่ 7" รายการ อะเมซิ่งไทยแลนด์มาราธอนแบงค็อก 2024 พรีเซ็นต์บายโตโยต้า ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ชิงเงินรางวัลรวม 2,440,500 บาท โดยปีนี้ กำหนดจัดอาทิตย์ที่ 1 ธ.ค.67 เวลา 02.00-09.30 น. มีนักวิ่งจาก 77 ประเทศทั่วโลกร่วมแข่งขัน เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2567 เวลา 14.00 น. นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานงานแถลงข่าวการจัดการแข่งขันวิ่งมาราธอนส่งเสริมการท่องเที่ยว "วิ่งฝาเมือง ครั้งที่ 7" โดยมี นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, มร.คิปทิเนสส์ ลินด์ซีย์ คิมโวเล่ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเคนยาประจำประเทศไทย, มร.เอเลซิโอ ปุนชี ผู้อำนวยการอาวุโสสมาคมกรีฑาโลก, พลตำรวจตรี ธวัช วงศ์สง่า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และผู้บริหารภาครัฐและเอกชน เข้าร่วม ซึ่งภายในงานแถลงข่าวมีบิ๊กเซอร์ไพรส์ด้วยการเชิญตำนานนักวิ่งมาราธอนโลก ดีกรีแชมป์โอลิมปิก 2 สมัยชาวเคนยา เอเลียด คิปโชเก้ และทีมวิ่งอันดับ 1 ของโลก NN Running Team มาเป็น "ทูตทางการท่องเที่ยวและกีฬาอย่างเป็นทางการ" นายสรวงศ์ กล่าวว่า "รัฐบาลไทย ให้ความสำคัญของการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดงานอีเว้นท์ขนาดใหญ่ หรือ Mass Participation ไปสู่ระดับโลก World Class Event จึงได้จัดตั้งโครงการ IGNITE THAILAND เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งการแข่งขันวิ่งมาราธอน รายการ Amazing Thailand Marathon Bangkok ก็เป็นหนึ่งใน รายการ Flagship ในสาขา Sports Tourism ของโครงการ IGNITE THAILAND" นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขันฯ กล่าวว่า "ในนามของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ทุกท่านคงได้เห็นแล้วว่าการแข่งขัน Amazing Thailand Marathon Bangkok ในปีที่ผ่านมา มีมาตรฐานของการจัดการแข่งขันในระดับสากลการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ต้องขอขอบคุณการสนับสนุนที่ดีจากรัฐบาล โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ได้ให้ความสำคัญและสนับสนุนรายการนี้ด้วยดีมาโดยตลอดในทุกๆ ปี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้กำหนดให้งาน Amazing Thailand Marathon Bangkok เป็นกิจกรรมหลักของ ททท. ในช่วงฤดูหนาว หรือ THAILAND WINTER FESTIVAL เนื่องจากเห็นว่า รายการนี้จะสามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย ในช่วงปลายปี โดยในทุกๆ ปี ททท.ก็พยายามที่จะออกแคมเปญดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก ให้ตัดสินใจเดินทางมาประเทศไทย เพื่อแข่งขันกับประเทศอื่นในแถบเอเชีย ที่มักใช้การแข่งขันวิ่งมาราธอนเป็นแม่เหล็กในการดึงดูด เช่น Singapore Marathon ของประเทศสิงคโปร์ หรือ Shanghai Marathon ของประเทศจีน ททท. เชื่อว่าการเดินทางมาร่วมวิ่งในงานนี้ จะมีประชาชน นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาร่วมต้อนรับ คิบโชเก้ ตลอดทั้งสัปดาห์เป็นจำนวนหลายหมื่นคน ก่อให้เกิดรายได้สู่ระบบท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก" นางสาวฐาปนีย์ กล่าว
ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมประชุมผู้บริหาร เน้นความรับผิดชอบ คุณธรรม และส่งเสริมการทำงานเป็นทีม วันที่ 24 ตุลาคม 2567 เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 2 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานการประชุมผู้บริหารสำนักงานปลัดกระทรวงฯ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ผ่านระบบการประชุมทางไกล (Zoom Meeting) เพื่อพบปะพูดคุยและรับทราบสถานการณ์การดำเนินงานในช่วงเวลาที่ผ่านมา ในที่ประชุม ปลัดกระทรวงฯ ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการทำงานเป็นทีมและการทำงานด้วยความรับผิดชอบ โปร่งใส และยึดมั่นในหลักคุณธรรมจริยธรรม โดยกล่าวว่า “การทำงานเป็นทีมถือเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจของกระทรวง ทุกคนต้องร่วมแรงร่วมใจเพื่อให้ผลลัพธ์เกิดขึ้นอย่างดีที่สุด” ปลัดกระทรวงฯ ยังกล่าวถึงนโยบาย "No Gift Policy" ซึ่งห้ามไม่ให้มีการรับของขวัญหรือของรางวัลใดๆ ทั้งขณะปฏิบัติหน้าที่ ก่อน หรือหลังจากปฏิบัติงาน เพื่อป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ นางสาวนัทรียา ได้มอบหมายให้ผู้แทนจากสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดทั่วประเทศสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ของแต่ละจังหวัด เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางการท่องเที่ยว โดยขอให้ทุกจังหวัดช่วยสำรวจแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ หรือสถานที่ที่มีศักยภาพในการพัฒนา เพื่อเพิ่มความหลากหลายและดึงดูดนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น สำหรับจังหวัดที่มีโรงเรียนกีฬา (13 จังหวัด) ปลัดกระทรวงฯ ได้ขอให้มีการสำรวจศักยภาพความสามารถและความต้องการ เพื่อหาช่องทางในการสนับสนุนด้านการกีฬา ได้อย่างตรงจุด ปลัดกระทรวงฯ ยังเน้นย้ำถึงแนวโน้มของนักท่องเที่ยวที่นิยมท่องเที่ยววัด โดยขอให้จังหวัดช่วยสำรวจศักยภาพของวัดต่างๆ ว่ามีโอกาสพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว "สายมู" ได้หรือไม่ “ปัจจุบันนักท่องเที่ยวนิยมท่องเที่ยววัดจำนวนมาก ขอให้ทุกจังหวัดดูว่าวัดใดในพื้นที่ของท่านที่มีศักยภาพในการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวสายมู เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในการดึงดูดนักท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรม” การประชุมในครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างส่วนกลางและภูมิภาค เพื่อให้ทุกหน่วยงานสามารถขับเคลื่อนภารกิจของกระทรวงได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จ
รมว. กก. เดินทางเยือน สปป. ลาว พร้อมคณะ เพื่อหารือกับผู้นำฝ่ายลาวในการส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวและกีฬาของไทย-ลาว ระหว่างวันที่ 18-20 ตุลาคม 2567 ณ นครหลวงเวียงจันทร์-หลวงพระบาง สปป. ลาว จากการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวอย่างเป็นทางการ ของนายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระหว่างวันที่ 18-20 ตุลาคม 2567 พร้อมด้วย นายจักรพรรดิ์ คล่องพยาบาล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และคณะผู้แทนฝ่ายไทย ตามคำเชิญของ สปป.ลาว เพื่อเข้าพบหารือกับผู้นำฝ่าย สปป.ลาว ในประเด็นเรื่องการส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวและกีฬาของไทย-ลาว ซึ่งมีประเด็นสำคัญ ดังนี้ 1. ทั้งสองฝ่ายได้เน้นย้ำถึงความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางข้ามพรมแดนทั้งทางบก ทางราง และอากาศ โดยสนับสนุนการประสานความร่วมมือกันระหว่างผู้ประกอบการไทย-ลาวให้ดียิ่งขึ้น และสามารถอำนวยความสะดวกต่อนักท่องเที่ยวจาก Short-haul และ Long-Haul ได้ เพื่อให้สอดคล้องกับปีแห่งการท่องเที่ยวและการแข่งขันกีฬา Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 2. นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้กล่าวเชิญชวน นางสวนสวรรค์ วิยะเขต (Ms. Suanesavanh Vignaket) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการแถลงข่าว วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว หรือผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องฝ่ายลาว เข้าร่วมกิจกรรมปีแห่งการท่องเที่ยวและการแข่งขันกีฬา โดยไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 (SEA Games 2025) ระหว่างวันที่ 9 - 20 ธันวาคม 2568 โดยจะใช้กรุงเทพมหานคร ชลบุรี สงขลา เป็น 3 จังหวัดหลักในการจัดการแข่งขันฯ ดังกล่าว รวมทั้ง นครราชสีมาจะเป็นจังหวัดในการจัดการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ระหว่างวันที่ 20 - 26 มกราคม 2569 ด้วย 3. นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้กล่าวสนับสนุนการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมผ่านการท่องเที่ยวระหว่างภาคประชาชนของไทย-ลาว ให้เกิดความยั่งยืนและพัฒนาการท่องเที่ยวของสองฝ่ายให้เป็นรูปธรรมและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อภาคการท่องเที่ยว ทั้งนี้ รัฐมนตรีฯ อยากเชิญชวนนักท่องเที่ยวไทยและนักท่องเที่ยวลาวเดินทางมาท่องเที่ยวระหว่างกัน สัมผัสบรรยากาศของธรรมชาติที่สวยงามและความเป็นเอกลักษณ์ทางด้านวัฒนธรรมของทั้งสองประเทศ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย-ลาว ต่อไป
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมพิธีวางพวงมาลาเนื่องในวันนวมินทรมหาราช น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันใหญ่หลวงของในหลวงรัชกาลที่ 9 วันนี้ (13 ตุลาคม 2567) เวลา 08.30 น. ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนพิษณุโลก เขตดุสิต กรุงเทพฯ นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เข้าร่วมพิธีวางพวงมาลาและถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ ในหลวงรัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสวันนวมินทรมหาราช โดยมี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีเข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง ภายหลังเสร็จสิ้นพิธี นายสรวงศ์ ได้นำคณะข้าราชการจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาร่วมกันน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทยในหลากหลายด้าน ตลอดระยะเวลาการครองราชย์ของพระองค์ ซึ่งเป็นที่จดจำและยึดถือเป็นแบบอย่างในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน โดยวันนี้นับเป็นโอกาสอันสำคัญที่ชาวไทยทุกคนจะได้ร่วมแสดงความกตัญญูและรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งพระองค์ทรงเป็นที่รักและศรัทธาของประชาชนทุกหมู่เหล่า อีกทั้งเป็นแบบอย่างที่ดียิ่งในการทุ่มเททำงานเพื่อพัฒนาประเทศ
รมว. กก เผย เตรียมแพคเกจ “ แอ่วเหนือคนละครึ่ง” เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดประสบอุทกภัยภาคเหนือ นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เดินทางตรวจเยี่ยม พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงรายระหว่างวันที่ 11~12 ตุลาคม 2567 โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยว ผู้ประกอบการร้านอาหาร และสถานบริการต่างๆ พร้อมรับฟังข้อเสนอและการขอรับความช่วยเหลือจากผู้ประกอบการ ซึ่งส่วนใหญ่ได้ขอให้รัฐบาลช่วยพิจารณาในเรื่องของ Soft Loan การลดภาระค่าใช้จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ การลดภาษีโรงเรือน และการจัดแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวเพื่อกระจายรายได้ให้กับคืนสู่ปกติ โดยรัฐมนตรี ฯ รับฟังทุกข้อเสนอและจะนำกลับไปสู่การพิจารณาของรัฐบาลเพื่อเสนอมาตรการช่วยเหลือเยียวยาให้ตรงจุดมากที่สุด สำหรับการกระตุ้นการท่องเที่ยวซึ่งเป็นกลไกหลักของการสร้างรายได้ให้กับพื้นที่ทั้งสองจังหวัด จะมีการนำเสนอโครงการ “ แอ่วเหนือ คนละครึ่ง” โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้วางแผนจัดเตรียมโครงการไว้ โดยจะสนับสนุน 400 บาทจาก 800 บาท ต่อคน ต่อทริป ในจำนวน 10,000 คน ซึ่งจะเป็นโครงการนำร่อง เร่งด่วน สำหรับแพ็คเกจส่งเสริมการท่องเที่ยว ในช่วงปลายปีนี้ และหากเกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้กับประชาชนและผู้ประกอบการได้อย่างเห็นผลชัดเจน ก็จะได้ขยาย และยกระดับขึ้นไปอีก ทั้งนี้ ทั้ง 2 จังหวัด คือเชียงใหม่และเชียงรายต่างยืนยันความพร้อมที่จะเปิดจังหวัดในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งกระทรวงท่องเที่ยวฯ และ ททท ได้จัดทำแผนกิจกรรม ส่งเสริมการท่องเที่ยว ที่น่าสนใจและตลอดในช่วงปลายปีนี้ด้วย
รมว. กก ตัวแทนรัฐบาล มอบของยังชีพ ให้ รพ สวนดอก ศูนย์ดูแลผู้ได้รับผลกระทบน้ำท่วม วันนี้ ( 11 ตุลาคม 2567) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ ที่ปรึกษารัฐมนตรีฯ ปลัดกระทรวงฯ ผู้ว่าฯ ททท เป็นต้น ร่วมตรวจเยี่ยมสถานที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยที่เชียงใหม่ โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยว โรงแรม และโบราณสถาน เพื่อนำปัญหาความเดือดร้อน ข้อเสนอแนะจากผู้ประกอบการ เข้าสู่กระบวนการหามาตรการช่วยเหลือเยียวยาทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยคาดว่าจะสามารถนำเข้า ครม. ได้ภายในสัปดาห์หน้านี้ รวมทั้งคาดว่าจะมีการจัด ครม. สัญจร ที่เชียงใหม่หรือเชียงราย ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ประสบการณ์ และผลกระทบ จากสถานการณ์อุทกภัยฉับพลันในครั้งนี้ เป็นบทเรียนสำหรับการหาแนวทางการรับมือเพื่อป้องกันความเสียหายรวมทั้งนำเป็นโมเดลการบริหารสถานการณ์เพื่อลดความสูญเสียเมื่อเกิดขึ้นอีกในครั้งหน้า จากผู้ประกอบการที่รอดจากสถานการณ์อุทกภัยครั้งนี้ ในโอกาสนี้รัฐมนตรีฯ ได้เป็นตัวแทนรัฐบาลมอบสิ่งของยังชีพ ได้แก่ อาหารสด อาหารแห้ง เครื่องอุปโภค-บริโภค ยา และนมสำหรับเด็ก จากภาคส่วนต่างๆ ของรัฐบาล เช่น กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการท่องเที่ยว ฯ มอบให้แก่โรงพยาบาลสวนดอก ซึ่งเป็นศูนย์ดูแลผู้ประสบอุทกภัยได้ใช้ประโยชน์และสามารถ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยตรงความต้องการ