ข่าวสารล่าสุดจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานพิธีรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ และถวายสัตย์ปฏิญาณ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันที่ 21 กรกฎาคม 2568 เวลา 13.30 น. ณ ห้องโถง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นสายสะพาย ประจำปี พ.ศ. 2567 ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีผู้เข้ารับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้น ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.) จากสำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรมพลศึกษา และกรมการท่องเที่ยว รวมทั้งสิ้น 14 ราย ในโอกาสนี้ ได้รับเกียรติจาก นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และโฆษกกระทรวง, นายจักรพรรดิ์ คล่องพยาบาล ที่ปรึกษารัฐมนตรีฯ, นางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายเศกสันฐ์ ง้าวสุวรรณ์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมทั้งผู้บริหารจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ เข้าร่วมแสดงความยินดีกับผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อย่างพร้อมเพรียง จากนั้นในเวลา 14.00 น. นายสรวงศ์ เทียนทอง ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี ถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน เนื่องในโอกาส วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2568 โดยกล่าวคำกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล พร้อมกล่าวนำถวายสัตย์ปฏิญาณ และร่วมกันร้องเพลง “สรรเสริญพระบารมี” และ “สดุดีจอมราชา” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ทั้งสองกิจกรรมสะท้อนถึงความภาคภูมิใจของข้าราชการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในการรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาท และมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนและความเจริญก้าวหน้าของประเทศชาติอย่างยั่งยืน
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเดินหน้าเต็มกำลัง! เตรียมผลักดันไทยสู่เจ้าภาพ F1 World Championship วันที่ 21 กรกฎาคม 2568 เวลา 11.00 น. นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเตรียมความพร้อมการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันรถยนต์ Formula One ในประเทศไทย ครั้งที่ 1/2568 ณ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยมีผู้บริหารระดับสูงและคณะกรรมการฯ เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง เพื่อเร่งผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นเจ้าภาพการแข่งขันรถยนต์ชิงแชมป์โลกรายการ FIA FORMULA ONE WORLD CHAMPIONSHIP ระหว่างปี พ.ศ. 2571 – 2575 (รวม 5 ปี) การประชุมครั้งนี้มีผู้บริหารเข้าร่วม อาทิ นายจักรพรรดิ์ คล่องพยาบาล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง, และ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทุกภาคส่วนในการผลักดันเป้าหมายระดับชาตินี้ โดยที่ประชุมคณะกรรมการฯ ได้พิจารณาและหารือในประเด็นสำคัญหลายประเด็นเพื่อวางรากฐานการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน Formula One อย่างรอบด้าน ได้แก่: * การจัดทำประชาพิจารณ์: ขอความเห็นชอบขั้นตอนการดำเนินงานการจัดทำประชาพิจารณ์สำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถยนต์ Formula One ในประเทศไทย เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างรอบด้าน สร้างความเข้าใจและการยอมรับจากทุกภาคส่วน * การว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อเจรจากับ FOWC: พิจารณาอนุมัติขอบเขตการดำเนินงานจัดจ้างที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อดำเนินการเจรจาต่อรองกับ Formula One World Championship (FOWC) รวมถึงวางแผนการดำเนินงานในทุกมิติสำหรับการจัดแข่งขันรถยนต์ Formula One ในประเทศไทย เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและมีความเป็นไปได้ในการจัดงานอย่างยั่งยืน * การมอบหมายหน้าที่ตามมติ ครม.: มอบหมายหน้าที่ความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจน ตามมติคณะรัฐมนตรีในคราวประชุมเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2568 ซึ่งเป็นมติที่เห็นชอบในหลักการเรื่องการเสนอตัวขอเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถยนต์ชิงแชมป์โลกรายการ FIA FORMULA ONE WORLD CHAMPIONSHIP ในประเทศไทยประจำปี พ.ศ. 2571 – 2575 การประชุมครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการเตรียมความพร้อมของประเทศไทยสู่การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน Formula One ซึ่งจะนำมาซึ่งประโยชน์มหาศาลต่อการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ และภาพลักษณ์ของประเทศในเวทีโลก
“ก้าวต่อไปของฐานข้อมูลกีฬาไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเดินหน้าต่อยอดการพัฒนาระบบสารานุกรมกีฬาประเทศไทย (Thailand Sports Almanac) ให้เป็นฐานข้อมูลกลางด้านการกีฬาของประเทศ” วันที่ 21 กรกฎาคม 2568 ณ โรงแรม Centara Life Hotel Bangkok Phra Nakorn กรุงเทพมหานคร นายเศกสันฐ์ ง้าวสุวรรณ์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้รับมอบหมายจากปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดการประชุมกลุ่มย่อย (Focus Group) เพื่อรวบรวมและระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาระบบสารานุกรมกีฬาประเทศไทย (Thailand Sports Almanac) ระยะที่ 2 ครั้งที่ 1 ซึ่งเป็นการต่อยอดการพัฒนาให้ระบบมีความครบถ้วน สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยมีการเพิ่มเติมระบบข้อมูลที่จำเป็นต่อการพัฒนาการกีฬาของประเทศ ได้แก่ ข้อมูลศูนย์ฝึกกีฬา ข้อมูลศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา ข้อมูลมาตรฐานบุคลากรทางการกีฬา ข้อมูลทะเบียนนักกีฬา ข้อมูลหลักสูตรการฝึกอบรม และข้อมูลผลการแข่งขันของสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย นายเศกสันฐ์ ง้าวสุวรรณ์ ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการจัดประชุมกลุ่มย่อยในครั้งนี้ ว่ามีบทบาทสำคัญในการรวบรวมข้อมูลและรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับระบบข้อมูลศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา ศูนย์ฝึกกีฬา และศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ ซึ่งถือเป็นการวางรากฐานสำคัญในการพลิกโฉมการพัฒนาการกีฬาของประเทศ โดยมุ่งเน้นการใช้ข้อมูลที่ครบถ้วน สมบูรณ์ และทันสมัย เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนนโยบายด้านการกีฬา ทั้งนี้ ระบบสารานุกรมกีฬาประเทศไทย (Thailand Sports Almanac) จะทำหน้าที่เป็น “คลังข้อมูลกลางด้านการกีฬา” ที่มีความครบถ้วน ถูกต้อง และน่าเชื่อถือ เพื่อให้บริการข้อมูลที่แม่นยำและทันต่อสถานการณ์แก่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นด้านการกำหนดนโยบาย การจัดสรรงบประมาณ การติดตามประเมินผล ตลอดจนการสร้างความร่วมมือระหว่างภาคีเครือข่ายในทุกระดับ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนากีฬาของประเทศไทยให้เป็นไปอย่างมีทิศทาง ชัดเจน และต่อเนื่องในระยะยาว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามุ่งมั่นที่จะยกระดับระบบสารสนเทศด้านกีฬาให้เป็นเครื่องมือสำคัญของประเทศ ที่ไม่เพียงตอบโจทย์ด้านข้อมูลเท่านั้น แต่ยังเป็นพลังขับเคลื่อนการกีฬาไทยให้ก้าวสู่มาตรฐานสากลได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต
รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมรับเสด็จฯ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในการแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็ง Thailand Invitation 2025 และถวายรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน พร้อมสนับสนุนเยาวชนไทยสู่เวทีกีฬานานาชาติ วันที่ 19 กรกฎาคม 2568 เวลา 18.39 น. ณ สนามฮอกกี้น้ำแข็ง Thailand International Ice Hockey Arena เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เฝ้าฯ รับเสด็จ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในการเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรการแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งคู่ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย และพระราชทานถ้วยรางวัล Thailand Invitation Ice Hockey Championship 2025 โดยมี นายจักรพรรดิ์ คล่องพยาบาล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นางสาววนิดา พันธ์สอาด รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย, หม่อมหลวงกฤษฎา เกษมสันต์ นายกสมาคมกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งแห่งประเทศไทย พร้อมคณะกรรมการ และคณะทำงานฯ ร่วมเฝ้าฯ รับเสด็จ ในการนี้ นายสรวงศ์ เทียนทอง ได้กราบบังคมทูลสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และกราบบังคมทูลรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดการแข่งขันฯ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และยกระดับวงการกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งของประเทศไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ตลอดจนส่งเสริมศักยภาพเยาวชนไทยให้มีโอกาสพัฒนาสู่การแข่งขันกีฬาอาชีพ การแข่งขันดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16–19 กรกฎาคม 2568 โดยมีทีมจากหลายประเทศเข้าร่วม ได้แก่ ประเทศไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเกาหลีใต้ รวม 24 ทีม แบ่งการแข่งขันออกเป็น 4 รุ่น ได้แก่ รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี (ชาย) รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี (หญิง) รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี (ชาย) รุ่นไม่จำกัดอายุ (หญิง) สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระราชทานถ้วยรางวัลแก่ทีมชนะเลิศทั้ง 4 รุ่น ได้แก่: ทีม Thailand Select Blue (รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ชาย) ทีม Thailand Select Yellow (รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี หญิง) ทีม Thailand Select Blue (รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ชาย) ทีม Thailand Select (รุ่นไม่จำกัดอายุ หญิง) นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงแสดงออกถึงพระราชหฤทัยอันแน่วแน่ในการสนับสนุนกีฬาฮอกกี้น้ำแข็ง ซึ่งสะท้อนถึงพระปณิธานอันแน่วแน่ในการส่งเสริมสุขภาพและพัฒนากีฬาของเยาวชนไทย อีกทั้งยังเป็นที่ประจักษ์ในระดับนานาชาติเมื่อสหพันธ์กีฬาฮอกกี้น้ำแข็งนานาชาติ (IIHF) ได้ถวายพระเกียรติยศเป็น “ทูตกิตติมศักดิ์กีฬาฮอกกี้น้ำแข็งหญิงคนแรกของโลก” นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นพิธีว่า “กระทรวงฯ มีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนกิจกรรมครั้งสำคัญนี้ ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งเสริมกีฬาในระดับเยาวชนและนานาชาติ แต่ยังเป็นโอกาสอันล้ำค่าในการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ผู้ทรงเป็นต้นแบบของการพัฒนากีฬาไทยด้วยพระราชหฤทัยอันเปี่ยมล้น” กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมขับเคลื่อนนโยบายส่งเสริมกีฬาฮอกกี้น้ำแข็ง และกีฬาฤดูหนาวอื่น ๆ อย่างเป็นระบบ เพื่อเตรียมความพร้อมนักกีฬาไทยสู่เวทีโลกอย่างยั่งยืนต่อไป
พัทยามาราธอน 2025 เปิดฉากยิ่งใหญ่ รมว.ท่องเที่ยวฯ ร่วมวิ่ง 10 กม. พร้อมชูเมืองพัทยาสู่ "สปอร์ตซิตี้" พัทยา, 19 กรกฎาคม 2568 – นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันวิ่งมาราธอนส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับนานาชาติ "AMAZING THAILAND PATTAYA MARATHON 2025 Presented by MAMA" ซึ่งเปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่ในวันนี้ ท่ามกลางบรรยากาศคึกคักของนักวิ่งกว่า 20,000 คน ที่บริเวณเทอร์มินอล 21 พัทยา โดยในพิธีได้รับเกียรติจากคณะผู้บริหารจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้แก่ นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯและโฆษกกระทรวง, นายจักรพรรดิ์ คล่องพยาบาล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการฯ, และนายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการฯ พร้อมด้วยนายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา, และพลตำรวจโท ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง ในพิธีเปิด นายสรวงศ์ ได้กล่าวแสดงความยินดีที่เมืองพัทยาประสบความสำเร็จในการจัดงานอย่างต่อเนื่อง โดยระบุว่า "พัทยามาราธอนได้รับความสนใจจากนักวิ่งทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติสมัครจนเต็มจำนวนกว่า 20,000 คน จาก 69 ประเทศทั่วโลก ในเวลาเพียงไม่ถึง 1 สัปดาห์" ความสำเร็จนี้เป็นเครื่องยืนยันศักยภาพของเมืองพัทยา และเป็นผลจากความมุ่งมั่นของทุกภาคส่วน พร้อมกันนี้ นายสรวงศ์ยังได้กล่าวว่ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเตรียมยกให้งานนี้เป็นโมเดลต้นแบบในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านงานวิ่งมาราธอน เพื่อขยายผลไปยังจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศ ภายหลังเสร็จสิ้นการวิ่งในระยะ 10 กิโลเมตร ซึ่งรัฐมนตรีว่าการฯ ได้ลงร่วมวิ่งเพื่อสร้างความประทับใจด้วยตนเอง ท่านได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ที่รออยู่บริเวณเส้นชัยว่า รัฐบาลมุ่งเน้นนโยบายในการนำกีฬามาส่งเสริมการท่องเที่ยว (Sports Tourism) อย่างจริงจัง "แน่นอนครับ รัฐบาลมุ่งเน้นในการที่จะเอาสปอร์ตมาเป็นทัวริซึมด้วย เพราะฉะนั้นเนี่ย กิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับกีฬาแล้วก็ท่องเที่ยวเนี่ย ชลบุรีโดยเฉพาะอย่างยิ่งพัทยาเนี่ย เป็นจุดมุ่งหมายสำคัญแน่นอน" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยังแสดงความเชื่อมั่นว่า ทั้งภาคประชาชนและผู้บริหารของเมืองพัทยามีเป้าหมายเดียวกันในการยกระดับเมือง "ผมมั่นใจว่าพี่น้องประชาชนชาวพัทยา รวมถึงผู้บริหารเมืองพัทยาทุกคนนะครับ มีจุดมุ่งหมายเดียวกันโดยการที่จะเอาพัทยาเนี่ย อ่า ยกระดับพัทยาให้มันเป็นสปอร์ตซิตี้ให้แบบเต็มรูปแบบให้ได้ครับ " การแข่งขัน "AMAZING THAILAND PATTAYA MARATHON 2025" ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานสากลจากสมาคมกรีฑาโลก (World Athletics) ไม่เพียงแต่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในเมืองพัทยาและจังหวัดชลบุรีอย่างมีนัยสำคัญ แต่ยังเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวเชิงกีฬาระดับโลก โดยงานนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-20 กรกฎาคม 2568 ครอบคลุมระยะการแข่งขันตั้งแต่ 4.5 กม., 10 กม., ฮาล์ฟมาราธอน 21.1 กม. และฟูลมาราธอน 42.195 กม. . #PattayaMarathon2025 #AmazingThailandPattayaMarathon #สรวงศ์เทียนทอง #กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา #SportsTourism #สปอร์ตซิตี้ #เที่ยวพัทยา #ชลบุรี #วิ่งมาราธอน #Pattaya #Chonburi
รมว.ท่องเที่ยวฯ "สรวงศ์" ควงทีมผู้บริหารลุย Walking Street พัทยา ตรวจความปลอดภัย-รับฟังผู้ประกอบการ ย้ำ "ประเทศไทยปลอดภัย" พัทยา – เมื่อเวลา 18:40 น. ของวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงฯ ประกอบด้วย นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯและโฆษกกระทรวงฯ, นายจักรพรรดิ์ คล่องพยาบาล ที่ปรึกษารัฐมนตรีฯ และ นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรีฯ ได้ลงพื้นที่ถนนคนเดิน Walking Street พัทยา ภารกิจครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อตรวจเยี่ยมความเรียบร้อย, เดินทักทายสร้างขวัญและกำลังใจแก่ผู้ประกอบการ และสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว โดยมี พลตำรวจโท ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ร่วมลงพื้นที่และให้ข้อมูลอย่างใกล้ชิด บรรยากาศเป็นไปอย่างกันเอง นายสรวงศ์และคณะได้เดินพูดคุยกับผู้ประกอบการและรับฟังถึงสถานการณ์การค้าขาย ซึ่งยอมรับว่าบรรยากาศโดยรวมยังค่อนข้างซบเซา จึงได้มีการหารือถึงแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยผู้ประกอบการและกระทรวงฯ เห็นตรงกันว่าการจัดกิจกรรมและอีเวนต์อย่างต่อเนื่องจะเป็นแม่เหล็กสำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ต่อมาในช่วงค่ำ เวลาประมาณ 20:30 น. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนบริเวณด้านหน้ารถยนต์บัญชาการเคลื่อนที่ของตำรวจท่องเที่ยว (Mobile Command Unit) โดยกล่าวเน้นย้ำถึงความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยว่า "วันนี้ผมได้มาลงพื้นที่พัทยา ซึ่งเป็นแหล่งทำเงินมหาศาลให้กับประเทศ และต้องขอขอบคุณทุกๆ หน่วยงานครับ ทั้งตำรวจภูธรภาค 2 และโดยเฉพาะอย่างยิ่งตำรวจท่องเที่ยว ที่ได้ร่วมมือกันสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวว่า ประเทศไทยปลอดภัย พัทยาปลอดภัย ชลบุรีปลอดภัย " การลงพื้นที่อย่างใกล้ชิดของผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในครั้งนี้ ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่ารัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการฟื้นฟูเมืองพัทยา ทั้งในมิติของความปลอดภัยและเศรษฐกิจไปพร้อมกัน . #สรวงศ์เทียนทอง #รมวท่องเที่ยวและกีฬา #ตำรวจท่องเที่ยว #พัทยา #WalkingStreetPattaya #Pattaya #เที่ยวไทย #ท่องเที่ยวปลอดภัย #ชลบุรี #AmazingThailand #ไปให้สุดไปกับบอย
รมว.ท่องเที่ยวฯ "สรวงศ์" นำทีมผู้บริหารลงพื้นที่พัทยา รับฟังปัญหาผู้ประกอบการ ชูนโยบายอัดฉีดอีเวนต์ฟื้นเศรษฐกิจ สร้างความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว พัทยา – วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 ณ ศาลาว่าการเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและโฆษกกระทรวงฯ, นายจักรพรรดิ์ คล่องพยาบาล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการฯ และ นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการฯ นำคณะทำงานเดินทางลงพื้นที่เมืองพัทยา เพื่อติดตามสถานการณ์การท่องเที่ยวและเปิดเวทีรับฟังปัญหาจากผู้ประกอบการ โดยมี นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา และ พลตำรวจโท ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ให้การต้อนรับและเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง นายสรวงศ์ เทียนทอง กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นการสนองนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญกับเมืองท่องเที่ยวหลักของประเทศ โดยตั้งใจมาให้กำลังใจและขอบคุณผู้ประกอบการและชาวเมืองพัทยา ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้ประเทศมาอย่างต่อเนื่อง การมารับฟังปัญหาโดยตรงจะทำให้รัฐบาลสามารถกำหนดแนวทางและให้ความช่วยเหลือได้อย่างตรงจุดและทันท่วงที รัฐมนตรีว่าการฯ ได้เปิดเผยถึงแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจว่า "เพื่อชดเชยการชะลอตัวของนักท่องเที่ยวในบางตลาด กระทรวงฯ มีนโยบายที่ชัดเจนในการส่งเสริมและผลักดันให้มีการจัดกิจกรรมและเมกะอีเวนต์ (Mega Event) ในเมืองพัทยาเพิ่มขึ้นตลอดทั้งปี เพราะเราเชื่อมั่นว่าทุกการจัดงานจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพให้เดินทางเข้ามา และก่อให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในพื้นที่ได้อย่างมหาศาล ทั้งในส่วนของโรงแรมที่พัก ร้านอาหาร และธุรกิจบริการที่เกี่ยวเนื่อง " พร้อมกันนี้ นายสรวงศ์ ได้กล่าวถึงโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุดว่า "อยากเชิญชวนพี่น้องประชาชนที่วางแผนจะเดินทางท่องเที่ยว ให้รีบใช้สิทธิ์ในโครงการฯ ซึ่งยังมีโควต้าเหลืออยู่กว่า 300,000 สิทธิ์ และสามารถใช้ได้จนถึงวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ขณะเดียวกัน ผมได้รับทราบถึงปัญหาของผู้ประกอบการในการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ และได้สั่งการให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในฐานะหน่วยงานผู้รับผิดชอบ เร่งหาแนวทางอำนวยความสะดวกและแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยด่วนแล้วครับ" ในประเด็นสำคัญด้านความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ให้ความสำคัญสูงสุด โดยกล่าวปิดท้ายว่า "กระทรวงฯ ขอยืนยันว่าประเทศไทยมีความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว เราทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนอย่างเข้มแข็งเพื่อดูแลความปลอดภัยในทุกมิติ เรามุ่งมั่นที่จะทำให้นักท่องเที่ยวทุกท่านที่มาเยือนประเทศไทยได้รับประสบการณ์ที่ดี มีความสุข และเดินทางกลับไปด้วยความประทับใจ เพื่อให้ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางในใจของนักท่องเที่ยวทั่วโลกต่อไป" การลงพื้นที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและคณะในครั้งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาอย่างเต็มกำลัง และพร้อมที่จะทำงานร่วมกับพันธมิตรในพื้นที่เพื่อขับเคลื่อนการท่องเที่ยวให้เติบโตอย่างยั่งยืน . #สรวงศ์เทียนทอง #รมวท่องเที่ยวและกีฬา #กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา #พัทยา #Pattaya #เที่ยวไทย #ฟื้นฟูเศรษฐกิจพัทยา #ท่องเที่ยวปลอดภัย #รัฐบาลเพื่อประชาชน #AmazingThailand #ไปให้สุดไปกับบอย #เที่ยวไทยคนละครึ่ง
ปกก. เตรียมพร้อมเข้าร่วมประชุม ASEAN NTOs ครั้งที่ 62 ณ เกาะโบราไกย์ ฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เวลา 13.30 – 15.00 น. นางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานการประชุมเตรียมการสําหรับการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการท่องเที่ยวอาเซียน ครั้งที่ 62 ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 3 และผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมฯ การประชุมฯ ดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อหารือ และติดตามการดำเนินงานของประเทศสมาชิกอาเซียน ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยว อาเซียน ปี พ.ศ. 2559 - 2568 (ASEAN Tourism Strategic Plan: ATSP 2016 - 2025) โดยสืบเนื่องจากการประชุมคณะกรรมการด้านการท่องเที่ยวอาเซียน (ASEAN Tourism Committee Meetings: ATCM) ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 28 เมษายน - 3 พฤษภาคม 2568 ณ กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ รวมถึงความคืบหน้าการดำเนินงานตามข้อตกลงว่าด้วยการยอมรับคุณสมบัติบุคลากรวิชาชีพด้านการท่องเที่ยวอาเซียน (MRA-TP) กิจกรรมการตลาดท่องเที่ยวอาเซียน (ASEAN Tourism Marketing Strategy: ATMS) และโครงการภายใต้กองทุน ASEAN NTOs Fund ทั้งนี้ การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการท่องเที่ยวอาเซียน ครั้งที่ 62 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง จะจัดขึ้นวันที่ 3 - 8 สิงหาคม 2568 ณ เกาะโบราไกย์ สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ โดยมีฟิลิปปินส์เป็นเจ้าภาพ
กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา เดินหน้าพัฒนาศักยภาพการวิจัยเชิงนโยบาย มุ่งยกระดับบุคลากรสู่การขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยวและกีฬาอย่างยั่งยืน วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 ณ โรงแรมซีบรีซ จอมเทียน รีสอร์ท จังหวัดชลบุรี กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดกิจกรรมการอบรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “การยกระดับองค์ความรู้เพื่อเสริมสร้างศักยภาพการวิจัยเชิงนโยบายสำหรับบุคลากรสำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17–19 กรกฎาคม 2568 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาทักษะการวิจัยเชิงนโยบายและส่งเสริมให้บุคลากรสามารถวิเคราะห์และจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายที่ตอบโจทย์การพัฒนาอย่างยั่งยืนในภาคการท่องเที่ยวและกีฬา ในกิจกรรมวันที่สองของการอบรม ได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชูศักดิ์ เอื้องโชคชัย หัวหน้าภาควิชาอาชีวศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นวิทยากรรับเชิญ ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ด้านการวิจัย โดยในช่วงเช้าเป็นการบรรยายในหัวข้อ “ความเข้าใจพื้นฐานที่สำคัญของการทำวิจัยในหน่วยงาน ภายใต้กรอบแนวทางของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)” ซึ่งช่วยให้ผู้เข้าอบรมมีความเข้าใจในบริบทและทิศทางการวิจัยในระดับนโยบายอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ขณะที่ในช่วงบ่าย เป็นกิจกรรมเวิร์กช็อปในหัวข้อ “เทคนิคการเขียนโครงการวิจัยที่มีประสิทธิภาพ” ซึ่งเน้นการลงมือปฏิบัติจริงเพื่อให้ผู้เข้าร่วมสามารถวางโครงร่างงานวิจัยที่เป็นระบบ และสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในการจัดทำโครงการวิจัยเชิงนโยบายของหน่วยงานตนเองในอนาคต การอบรมครั้งนี้นับเป็นอีกหนึ่งความพยายามของกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา ในการเสริมสร้างทุนทางปัญญาให้แก่บุคลากร เพื่อให้สามารถเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาให้บรรลุเป้าหมายของการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals – SDGs)
รมว.สรวงศ์ ร่วมเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” ระดมสมองจากผู้นำองค์กรชั้นนำ รวมพลังเศรษฐกิจไทย วันที่ 17 กรกฎาคม 2568 เวลา 18.30 น. นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงฯ และโฆษกกระทรวงฯ, นายจักรพรรดิ์ คล่องพยาบาล ที่ปรึกษารัฐมนตรีฯ, นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรีฯ และนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เข้าร่วมงานเสวนาระดมสมองครั้งสำคัญจากผู้นำองค์กรชั้นนำ ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อร่วมกันนำเสนอข้อมูลสำคัญด้านเศรษฐกิจ ผ่านเวทีเสวนาในหัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” (Unlocking Thailand’s Future) ภายในงานเริ่มต้นด้วยการเสวนาในหัวข้อ “ปลดล็อกทุกข้อจำกัด สร้างความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน เพื่ออนาคตไทย” เป็นการแลกเปลี่ยนแนวคิดในช่วงเวลาที่โลกและประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายจากวิกฤติเศรษฐกิจโลก สงครามการค้า มาตรการทางภาษี และการเงินการคลัง รวมถึงการขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นแหล่งรายได้สำคัญของประเทศ นายสรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า “การที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนลดลง ย่อมส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในระดับหนึ่ง แต่ก็มีตลาดใหม่เข้ามาทดแทน เช่น นักท่องเที่ยวจากอิสราเอลที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 70% จากปีที่ผ่านมา และยังมีนักท่องเที่ยวจากประเทศรองอื่น ๆ อาทิ ยูเครน สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา อิตาลี และอินเดีย โดยเฉพาะอินเดียซึ่งในปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวมากถึง 2.1 ล้านคน ในปีนี้จะมีอีเวนต์สำคัญที่รัฐบาลมองว่าจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามายังประเทศไทยได้มากขึ้น ผมเชื่อมั่นว่าภาคการท่องเที่ยวยังคงเป็นความหวังในการพัฒนาประเทศอย่างแน่นอน แม้จำนวนนักท่องเที่ยวจะลดลงในบางช่วง แต่ภาพรวมยังถือว่าเป็นภาคส่วนที่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยได้ ในช่วงครึ่งปีหลัง เรามีอีกหลายกิจกรรมที่จะเสนอให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ เช่น งบประมาณ 157,000 ล้านบาท ที่เตรียมไว้เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว รวมถึงการสนับสนุนภาคเอกชนด้านการเดินทาง เช่น การเพิ่มจำนวนเที่ยวบิน ซึ่งรัฐบาลมองว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า โดยท่านนายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่ท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ไม่จำกัดเฉพาะฤดูกาล นอกจากนี้ ในช่วงกลางปีนี้ ประเทศไทยยังได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก FIVB Women’s World Championship 2025 ซึ่งมี 32 ประเทศเข้าร่วมแข่งขันใน 4 จังหวัดเจ้าภาพ สร้างโอกาสในการส่งเสริมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้จัดทำแพ็กเกจส่งเสริมการใช้จ่ายของนักกีฬาและแฟนกีฬา เพื่อให้อยู่ในประเทศไทยได้นานขึ้น ช่วงปลายปีนี้ ประเทศไทยยังจะเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และในต้นปีหน้าจะเป็นเจ้าภาพอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ซึ่งกิจกรรมทั้งหมดนี้จะมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยอย่างเป็นรูปธรรม”
คณะกรรมการอำนวยการโครงการส่งเสริมการกีฬาเพื่อพัฒนาชาติไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อประชุมติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการฯ และพิจารณาผลการประเมินความพร้อมของโรงเรียนกีฬาในสังกัดหน่วยงานต่างๆ เพื่อยกฐานะเป็นโรงเรียนกีฬา ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจำปี 2568 วันพุธที่ 17 กรกฎาคม 2568 เวลา 13.30 น. คณะกรรมการอำนวยการโครงการส่งเสริมการกีฬาเพื่อพัฒนาชาติไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดประชุมครั้งที่ 3/2568 ณ ห้องประชุมอาคาร 606 สำนักพระราชวัง สนามเสือป่า โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง เพื่อรายงานผลการดำเนินงานและติดตามความก้าวหน้าในด้านต่าง ๆ ของโครงการฯ ในการนี้ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้มอบหมายให้ นายเศกสันฐ์ ง้าวสุวรรณ์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยนางบงกชรัตน์ โมลี ผู้อำนวยการกองนโยบายและการต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เข้าร่วมประชุมเพื่อร่วมขับเคลื่อนการดำเนินงานของโครงการฯ อย่างใกล้ชิด สาระสำคัญในการประชุมประกอบด้วย การรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการฯ ตามโครงการฯ จำนวน 4 คณะ อาทิ คณะอนุกรรมการด้านการยกฐานะและจัดตั้งโรงเรียนกีฬาในพระบรมราชูปถัมภ์ การสร้างเครือข่ายโรงเรียนกีฬา และห้องเรียนกีฬา คณะอนุกรรมการด้านการส่งเสริมการเล่นกีฬาและการออกกำลังกาย จิตอาสากีฬา และการจัดการแข่งขันกีฬา คณะอนุกรรมการด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านกีฬา และคณะอนุกรรมการด้านการส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรด้านการกีฬา รวมถึงการพิจารณารายงานผลการประเมินความพร้อมของโรงเรียนกีฬาในสังกัดหน่วยงานต่างๆ เพื่อยกฐานะเป็นโรงเรียนกีฬา ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจำปี 2568 ทั้งนี้ สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เสนอประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการจัดทำสารานุกรมกีฬาประเทศไทย Thailand Sports Almanac ซึ่งเป็นระบบฐานข้อมูลที่รวบรวมข้อมูลและสถิติเกี่ยวกับกีฬาในประเทศไทยอย่างเป็นระบบ เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลกลางในการวางแผนนโยบายและกำหนดทิศทางการพัฒนากีฬาไทยในระยะยาว โดยที่ประชุมได้ให้ความสำคัญและมีมติเห็นชอบร่วมกันที่จะสนับสนุนการดำเนินงานดังกล่าวอย่างเต็มที่ การประชุมครั้งนี้สะท้อนถึงความตั้งใจร่วมกันของทุกฝ่ายในการยกระดับมาตรฐานกีฬาไทยอย่างเป็นระบบ โดยมุ่งหวังให้เยาวชนไทยเติบโตเป็นพลเมืองคุณภาพ มีความสามารถและคุณธรรม พร้อมเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไป ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้พระบรมราชประสงค์ เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนและประชาชนทั่วไปมีนิสัยรักการออกกำลังกาย เล่นกีฬาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ห่างไกลยาเสพติด และมีสุขภาพแข็งแรง โดยเปิดโอกาสให้พัฒนาอย่างต่อเนื่องทั้งด้านทักษะ ความสามารถ และความเป็นเลิศในระบบกีฬาอย่างมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนของสังคม
รองปลัดฯ วนิดา เปิดอบรมเสริมศักยภาพการวิจัยเชิงนโยบาย หวังยกระดับบุคลากร สู่การขับเคลื่อนการท่องเที่ยวและกีฬาอย่างยั่งยืน วันที่ 17 กรกฎาคม 2568 ณ โรงแรมซีบรีซ จอมเทียน รีสอร์ท จังหวัดชลบุรี นางสาววนิดา พันธ์สอาด รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดการอบรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “การยกระดับองค์ความรู้เพื่อเสริมสร้างศักยภาพการวิจัยเชิงนโยบายสำหรับบุคลากรสำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17–19 กรกฎาคม 2568 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้ ทักษะ และขีดความสามารถด้านการวิจัยเชิงนโยบายให้แก่บุคลากรทุกระดับในหน่วยงาน รองปลัดฯ วนิดา กล่าวว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวและกีฬาไทยในปัจจุบันอยู่ในช่วงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2567 ประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 2.73 ล้านล้านบาท และมีการจ้างงานในภาคส่วนนี้มากกว่า 4.7 ล้านคน ขณะที่ภาคกีฬาเองก็มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 206,470 ล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในปี 2568 อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในปี 2568 ยังคงเผชิญความท้าทายจากหลากหลายปัจจัย ทั้งด้านภาพลักษณ์ความปลอดภัย ความขัดแย้งระหว่างประเทศ และสถานการณ์ชายแดน ซึ่งกระทรวงฯ จำเป็นต้องเร่งพัฒนาแนวทางเชิงนโยบายที่ตอบสนองสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที ด้วยเหตุนี้ การอบรมครั้งนี้จึงเป็นเวทีสำคัญในการสร้างขีดความสามารถด้านการวิจัยเชิงนโยบาย โดยเฉพาะการวิเคราะห์ข้อมูล การกำหนดนโยบายสาธารณะ และการเสนอของบประมาณจากหน่วยสนับสนุนภายนอก เช่น สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ซึ่งในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 กระทรวงฯ ได้รับงบประมาณสนับสนุนจำนวน 8 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 35 ล้านบาท และในปี 2568 เพิ่มอีก 5 โครงการ รวมวงเงินกว่า 29 ล้านบาท นอกจากนี้ เพื่อต่อยอดความรู้เชิงนวัตกรรมสู่การปฏิบัติจริง การอบรมในครั้งนี้ยังได้จัดให้มี กิจกรรมศึกษาดูงาน ณ Thailand Digital Valley จังหวัดชลบุรี และรับฟังการบรรยายจาก ผู้เชี่ยวชาญของ AIS EEC ณ อาคาร Thailand Digital Valley 2 เพื่อเปิดโลกทัศน์ของบุคลากรเกี่ยวกับเทคโนโลยีดิจิทัล อุตสาหกรรม 5G และนวัตกรรมที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาการท่องเที่ยวและกีฬาในยุคดิจิทัล “การยกระดับองค์ความรู้ด้านการวิจัย จะช่วยให้บุคลากรของสำนักงานปลัดฯ มีความพร้อมทั้งด้านแนวคิด กลยุทธ์ และเครื่องมือในการขับเคลื่อนภารกิจของกระทรวงให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และนโยบายรัฐบาลด้านการท่องเที่ยวและกีฬาได้อย่างมีประสิทธิภาพ” รองปลัดฯ วนิดา กล่าวทิ้งท้าย
