ข่าวสารล่าสุดจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 14.00 น. นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ครั้งที่ 1/2567 โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ณ ห้องประชุม 301 ชั้น 3 อาคารบัญชาการ 1 ทําเนียบรัฐบาล กรุงเทพฯ โดยมีเรื่องเพื่อพิจารณา ดังนี้ 1. ขอความเห็นชอบหลักการโครงการจัดตั้งโรงพยาบาลจิตเวชนราธิวาส ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2567 - 2571) 2. ขอความเห็นชอบข้อเสนอแนวทางการขับเคลื่อนโยบาย Soft Power สัตว์เศรษฐกิจ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นกปรอดหัวโขน (นกกรงหัวจุก) 3. ขอความเห็นชอบหลักการแนวทางการส่งเสริมทักษะสมองเพื่อจัดการชีวิตให้สําเร็จ (EF: Executive Function) สําหรับเด็กปฐมวัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ระยะ 5 ปี (2567 – 2571) 4. ขอความเห็นชอบหลักการในการอุดหนุนทางการเงินและให้ความช่วยเหลือด้านอื่นให้แก่โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามในโครงการตามพระราชดําริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และโครงการขยายผลการพัฒนาตามแนวพระราชดําริในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี “ครัวโรงเรียนสู่ ครัวบ้าน” 5 ปี (พ.ศ. 2568 – 2572)
นายกฯ เปิดงานเฟสติวัลมวยไทย ประจำปี 2567 “มหัศจรรย์ วันมวยไทย ดังไกลสู่ชาวโลก” Amazing Muay Thai World Festival 2024 ส่งเสริมมวยไทยให้เป็นซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศ วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 17.50 น. ณ อุทยานราชภักดิ์ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดงานเฟสติวัลมวยไทย ประจำปี 2567 “Amazing Muay Thai Festival 2024” โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารอากาศ เข้าร่วมงาน ซึ่งพลเอก เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมด้วยผู้บังคับบัญชาชั้นสูงของกองทัพบก ให้การต้อนรับ เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึงบริเวณด้านหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์บูรพกษัตริย์แห่งสยาม 7 พระองค์ ได้วางพานพุ่มสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์บูรพกษัตริย์แห่งสยาม 7 พระองค์ วางพานพุ่มสักการะพระบรมสาทิสลักษณ์สมเด็จพระเจ้าเสือ และถวายพานธูปเทียนแพด้านหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จากนั้นนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะได้ชมการแสดงมหัศจรรย์มวยไทยจากรากเหง้าแห่งสยาม ศิลปะการต่อสู้มรดกไทยสู่ชาวโลก ซึ่งเป็นการเล่าเรื่องราวย้อนอดีตในแง่ประวัติศาสตร์ จารีต ประเพณี วัฒนธรรม ประกอบด้วย “มหัศจรรย์มวยไทย จากรากเหง้าแห่งสยาม ศิลปะการต่อสู้มรดกไทยสู่สากล” นอกจากนี้ ยังมีการแปรรูปขบวนทหารย้อนอดีตของมวยไทย ประวัติศาสตร์บิดามวยไทย 322 ปี และการแสดงมวยไทยในทางกีฬา มวยไทยในทางทหาร ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ประกอบด้วย แม่ไม้ ลูกไม้มวยไทย การไหว้ครู จารีตวิถีโบราณ การมอบตัว การขึ้นครูและการครอบครู ซึ่งเป็นมนต์ขลังวัฒนธรรมมวยไทย ถือเป็นพิธีแห่งความศักดิ์สิทธิ์ และมีความขลังในการมอบตัวเป็นศิษย์ ซึ่งมีกำลังพลของกองทัพบกเข้าร่วมพิธีไหว้ครูครั้งนี้ กว่า 3,000 นาย ร่วมกับนักมวยจากสมาคมมวยพระเจ้าเสือและประชาชน รวมแล้วกว่า 5,000 คน สำหรับงานเฟสติวัลมวยไทย ประจำปี 2567 กองทัพบกผนึกกำลังภาครัฐ เอกชน และคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา ได้ร่วมกันจัดงานภายใต้ชื่อ “มหัศจรรย์ วันมวยไทย ดังไกลสู่ชาวโลก” ประจำปี 2567 (Amazing Muay Thai World Festival 2024) ซึ่งกำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 4 - 6 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 16.00 - 22.00 น. เพื่อส่งเสริมมวยไทยให้เป็นซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศ ส่งเสริมให้มวยไทยเป็นกีฬาประจำชาติ และมรดกของชาติไทย เผยแพร่ประวัติศาสตร์ จารึกประเพณีวัฒนธรรมอันงดงามและเป็นสากล เพื่อให้กีฬามวยไทยให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก และเพื่อต่อยอดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยให้มวยไทยเป็นสื่อกลาง ให้อุทยานราชภักดิ์เป็นบ้านของมวยไทยที่คนไทยและนักท่องเที่ยวต้องมา โดยนักท่องเที่ยวจะได้ชมและเพลิดเพลินกับการแสดงประกอบแสง สี เสียงอย่างอลังการ พร้อมจุดพลุ และการบินโดรนแปรอักษรอย่างยิ่งใหญ่งดงามตระการตา
รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา พบ เอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 ณ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายเปโดร สวาห์เลน เอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทยได้เข้าเยี่ยมคารวะ นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (รมว.กก.) เพื่อแสดงความยินดีในโอกาสที่เข้ารับตำแหน่งและได้หารือประเด็นความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวและการกีฬา ไทย - สมาพันธรัฐสวิส • ไทย-สมาพันธรัฐสวิส มีความสัมพันธ์อันดีมายาวนาน ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 (ค.ศ.1897) ทั้งในระดับราชวงศ์จนถึงระดับประชาชน โดยประชาชนชาวสวิสรักเมืองไทย ชอบคนไทย และเป็นที่น่ายินดีที่ปี 2566 (ม.ค.-พ.ย.) ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวไทยไปเที่ยวสวิส เท่ากับจำนวนนักท่องเที่ยวสวิสมาเที่ยวไทย ในจำนวนกว่า 120,000 คน • เอกอัครราชทูตฯ ได้เล่าประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวไทยโดยการขับรถจากกรุงเทพ ไปภาคอีสาน และภาคเหนือของไทย ทำให้เห็นถึงศักยภาพของ Infrastructure ของไทยว่ามีความพร้อมสำหรับการพัฒนาให้เป็นการท่องเที่ยว “Drive Tourism” เป็นอย่างมาก และการล่องเรือจากหลวงพระบางมา อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ก็มีศักยภาพในการพัฒนาให้เป็นกิจกรรมของนักท่องเที่ยวระดับ High-end นอกจากนี้ ได้กล่าวชื่นชมรถไฟไทยในเรื่องของความสะดวกสบายในการเดินทาง และค่าโดยสารที่ย่อมเยา โดยเห็นว่าระบบรถไฟไทยมีประสิทธิภาพสูงและสามารถตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ซึ่งเอกอัครราชทูตฯ ได้ทำคลิปขณะนั่งรถไปจากลาวมาไทย เพื่อ Promote ในช่องทางสื่อโซเซียล จนเป็นกระแสไวรัล (Viral) และมีผู้ติดตามใน Twitter เพิ่มขึ้น ในการนี้ รมว.กก ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า นโยบาย นรม.ต้องการสนับสนุนให้เกิดการท่องเที่ยวเชื่อมโยงในภูมิภาค (ASEAN Connect) ทั้งทางบก-อากาศ-น้ำ เพื่อให้เกิด “ASEAN One Destination” • เมื่อปี 2566 พบว่า ร้อยละ1.8 ของประชากรชาวสวิสเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย ดังนั้น จึงเสนอให้ประเทศไทยให้ความสำคัญกับการจัดการข้อมูลข่าวสาร โดยเฉพาะข่าวที่อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยว โดยเฉพาะข่าวเกี่ยวกับมลพิษทางอากาศ (PM 2.5) ซึ่งชาวสวิสให้ความสำคัญและใส่ใจต่อสภาพอากาศเป็นอย่างมาก ไทยจึงต้องระมัดระวังในเรื่องของ Fake News และบรรดา Influencers ควรมีการติดตาม ตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้นำเสนอในด้านบวกของไทย ทั้งนี้ ในประเด็นเรื่องปัญหามลพิษทางอากาศ ขณะนี้รัฐบาลไทยได้เร่งแก้ปัญหาในภาพรวม โดยการ บูรณาการการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและได้ห่วงใยประเทศเพื่อนบ้านด้วย โดยปัจจุบันได้เน้นในเรื่องของการสื่อสาร การให้ความรู้และการตรวจสอบติดตามระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ชุมชน และท้องถิ่น อย่างไรก็ดี รมว.กก. จะได้นำข้อเสนอของเอกอัครราชทูตฯ ไปหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป • รมว.กก ประสงค์ที่จะมีความร่วมมือ และเรียนรู้แนวปฏิบัติที่ดีที่สุด (Best Practice) จากสวิส ในประเด็นของการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยเอกอัครราชทูตฯ ยินดีช่วยประสานหน่วยงานในสวิส ที่เกี่ยวข้องให้ โดยกล่าวว่า สวิตเซอร์แลนด์มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนของโลก ภายใต้แคมเปญ “Swisstainable” เช่น ผู้ประกอบการท่องเที่ยวของสวิสได้ให้นักท่องเที่ยวสามารถออกแบบ Trip ของตนเองได้ด้วยรถไฟ ซึ่งเชื่อว่านักท่องเที่ยวในไทยสามารถทำรูปแบบการท่องเที่ยวแบบนี้ได้ • เอกอัครราชทูตฯ ได้ชื่นชมกีฬามวยไทย ซึ่งถือเป็น Soft Power ของไทยที่ได้รับความนิยมและแสดงถึงความสัมพันธ์อันดีทางด้านกีฬาของไทยกับสวิส ในการนี้ รมว.กก ได้แสดงความประสงค์ในการผลักดันความร่วมมือด้านกีฬาฤดูหนาวกับสวิส โดยเสนอเรื่องการส่งตัวนักกีฬาเยาวชนไปฝึกซ้อมที่สวิส รวมทั้ง ขอรับการสนับสนุนประชาสัมพันธ์เทศกาลสงกรานต์ที่จะจัดขึ้นในเดือนเมษายนนี้ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวสวิสให้มาท่องเที่ยวในประเทศไทย
108ปี มหัศจรรย์สีสันแห่งศรัทธา” ประเพณีแห่เจ้าพ่อ-เจ้าแม่ปากน้ำโพ รมว.ท่องเที่ยวฯ เปิดงาน “ประเพณีแห่เจ้าพ่อ-เจ้าแม่ปากน้ำโพ และงานเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนนครสวรรค์ ประจำปี 2567” เทศกาลเก่าแก่ชาวปากน้ำโพ สืบทอดรุ่นต่อรุ่นกว่าร้อยปี ณ เวทีหาดทรายต้นแม้น้ำเจ้าพระยา จ.นครสวรรค์ นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดงานประเพณีแห่เจ้าพ่อ-เจ้าแม่ปากน้ำโพ และงานเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนนครสวรรค์ ประจำปี 2567 ซึ่งงานประเพณีแห่เจ้าพ่อ-เจ้าแม่ปากน้ำโพ ถือว่าเป็นเทศกาลที่เก่าแก่ของชาวปากน้ำโพ เป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นกว่าร้อยปี และเป็นจังหวัดเดียวในประเทศไทย ที่มีการคัดเลือกคณะกรรมการจัดงานฯ โดยวิธีดั้งเดิม คือการเสี่ยงทายจากองค์เจ้าพ่อ-เจ้าแม่ปากน้ำโพ นอกจากนั้น ยังมีการอนุรักษ์ขบวนแห่มังกร สิงโต ถึง 5 คณะ จาก 5 ชาติพันธุ์ และขบวนแห่วัฒนธรรมของชาวไทยเชื้อสายจีน ที่มาร่วมขบวนแห่อย่างสวยงามตระการตา ปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 3 – 14 กุมภาพันธ์ 2567 12 วัน 12 คืน ภายใต้ชื่องาน "108ปี มหัศจรรย์สีสันแห่งศรัทธา" “งานนี้ถือเป็นความภูมิใจของชาวจังหวัดนครสวรรค์ ที่ได้สืบสานมรดกทางวัฒนธรรมที่ดีงาม มาจนถึงปัจจุบัน อีกทั้ง ยังเป็นการผลักดันกระตุ้นเศรษฐกิจ และส่งเสริมการท่องเที่ยวให้จังหวัดนครสวรรค์และจังหวัดใกล้เคียงอีกด้วย” รมว.สุดาวรรณ กล่าวทิ้งท้าย 4 กุมภาพันธ์ 2567
“พี” พีรัชชัย กับ “โอโม่” พรรคพล นักแบดมินตันคู่ชายไทย คว้ารองแชมป์แบดมินตัน รายการ ปรินเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส 2024 โดยมี พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ดร. ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย มอบรางวัลให้กับแชมป์และรองแชมป์ ในการแข่งขันแบดมินตัน "ปรินเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส 2024" (Princess Sirivannavari Thailand Masters 2024) พร้อมกันนี้ นางสาววนิดา พันธ์สอาด รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และคุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมงาน สำหรับการแข่งขันแบดมินตัน "ปรินเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส 2024" (Princess Sirivannavari Thailand Masters 2024) เป็นการแข่งขันชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา รวมถึงเป็นทัวร์นาเมนต์ในการเก็บคะแนนสะสมระดับบีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 300 ชิงเงินรางวัลรวม 210,000 เหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ7,240,000 บาท ในวันนี้เป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ในประเภทชายคู่ "พี" พีรัชชัย สุขพันธ์ กับ “โอโม่” พรรคพล ธีระรัตน์สกุล คู่มืออันดับ 76 ของโลก แพ้ให้กับ เหอ จีจิง กับ เหริน เซียงหยู คู่มือวาง 5 ของรายการ คู่มืออันดับ 16 ของโลกจากจีน 1-2 เกม 21-16,14-21 และ 13-21 ทำให้ เหอ จีจิง กับ เหริน เซียงหยู คว้าแชมป์ครองถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา 4 กุมภาพันธ์ 2567
รมว.สุดาวรรณ เปิดงาน “มนต์เสน่ห์แห่งตรุษจีน-พี่น้องไทยจีน สุขีรับปีมังกรทอง” วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 10.00 น. นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดงาน"มนต์เสน่ห์แห่งตรุษจีน-พี่น้องไทยจีน สุขีรับปีมังกรทอง" ณ reignwood park ลำลูกกา ปทุมธานี รมว.สุดาวรรณ กล่าวว่า งานมนต์เสน่ห์แห่งตรุษจีน–พี่น้องไทยจีน สุขีรับปีมังกรทองปีนี้เป็นปีครบรอบ 20 ปีแห่งความร่วมมือของอาเซียน กับจีน และครบรอบ 49 ปี ความสัมพันธ์ไทย - จีน อีกทั้งยังเป็นปีที่ 10 ปี ของการดำเนินนโยบาย “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ของรัฐบาลจีน ซึ่งถือว่าเป็นปี ที่มีความพิเศษเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาไทย-จีนมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันมาตลอดนานนับชั่วอายุคน ด้วยบริบททางวัฒนธรรมของสายสัมพันธ์ของไทยและจีน ทำให้วันตุรษจีน ที่จะมาถึงในอีก 3 วันนี้ เป็นเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองสำหรับทุกคน จึงขอถือโอกาสนี้ ขออวยพรปีใหม่ ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพ แข็งแรง กิจการเจริญรุ่งเรืองตลอดไป ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้มี ความพิเศษกว่าครั้งอื่นๆ ที่ผ่านมา โดย คุณชาญชัย ประธาน เรนวูด กรุ๊ป ได้สร้างพระตำหนัก เหรินโซ่วแห่งนี้ ด้วย สเกล เดียวกับ พระตำหนักต้น แบบจริง ในพระราชวังฤดูร้อน ณ กรุงปักกิ่ง โดยใช้ช่างผู้เชี่ยวชาญกว่า 200 ท่านในการก่อสร้างและใช้ ระยะเวลากว่า 1,000 วันในการก่อสร้างเป็นการยกเอาสถาปัตยกรรมจีนโบราณ มาจัดแสดงไว้ในพื้นที่โพ้นทะเล อย่างจังหวัดปทุมธานี พระตำหนักแห่งนี้ จะเป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่าง ไทยและจีน อีกทั้ง ยังเปรียบเสมือนเป็นการอวยพรให้ความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศมั่นคงยืนยาวและเน้นย้ำถึงขนบธรรมเนียม ไทย-จีน เป็นพี่น้องกัน นอกจากนี้ดิฉันเชื่อว่า สัญลักษณ์แห่งวัฒนธรรมที่ได้จัดแสดง ณ สถานที่แห่งนี้ จะเป็นศูนย์เรียนรู้ แลกเปลี่ยนระหว่างวัฒนธรรมตะวันออก-ตะวันตก ได้เป็นอย่างดีอีกแห่งหนึ่งในประเทศไทย
เฉลิมฉลองครบรอบ 49 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย นายอู๋ จื้ออู่ (Mr.Wu Zhiwu) อัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำราชอาณาจักรไทย เป็นประธานพิธีเปิดงาน แถลงข่าวและพิธีเปิดประดับตกแต่งไฟในเทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2567 โดยมี นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เข้าร่วม ณ ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา ถนนเยาวราช กรุงเทพมหานคร โดยการจัดงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อกระตุ้นให้เกิดกระแสการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศไทยของนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติในช่วงเทศกาลตรุษจีน เพื่อกระจายรายได้และเงินหมุนเวียนจากการใช้จ่ายในการจัดงานและระหว่างการเดินทาง และเพื่อเฉลิมฉลองและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน
รมว.สุดาวรรณเป็นประธานแถลงข่าวการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง เนชันส์ ลีก 2024 รอบชิงชนะเลิศ เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 13.00 น. นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานการแถลงข่าวการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง เนชันส์ ลีก 2024 รอบชิงชนะเลิศ โดยมี ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย, นางริต้า ซูโบโว ประธานสมาพันธ์วอลเลย์บอลแห่งเอเชีย, นายฟาบิโอ อาเซเวโด ผู้อำนวยการทั่วไปสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ, นายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนักกีฬาและสื่อมวลชน ณ ห้องจตุรทิศ ชั้น 3 โรงแรมโกลเด้นทิวลิป ชอฟเฟอริน กรุงเทพฯ รมว.สุดาวรรณ กล่าวว่า "รัฐบาลโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีนโยบายที่จะใช้ Soft Power เป็นส่วนหนึ่ง ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการกีฬาของประเทศ โดยจะผลักดันส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลาง การจัดการแข่งขันมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ ซึ่งเห็นว่ากีฬาวอลเลย์บอลมีศักยภาพที่สามารถเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดัน Soft Power ของประเทศไทยได้ เพราะทีมวอลเลย์บอลหญิงของไทยมีเอกลักษณ์ของความเป็นไทยที่แสดงออกให้ชาวโลกได้เห็นและชื่นชมอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ในส่วนของประชาชนชาวไทยก็ให้ความสนใจติดตามชมและเชียร์กันอย่างล้นหลาม ประกอบกับประเทศไทยมีศักยภาพพร้อมทั้งสนามแข่งขัน ฝึกซ้อม สถานที่พัก อาหาร การอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมทั้งบุคลากรที่มีคุณภาพ ผ่านประสบการณ์การจัดการแข่งขันระดับนานาชาติมาหลายรายการ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดียิ่งมาโดยตลอด สำหรับประโยชน์ที่ประเทศไทยจะได้รับที่สำคัญคือ ชื่อเสียงภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาชาวโลกโดยเฉพาะด้านการกีฬา กระตุ้นการเติบโตด้านอุตสาหกรรมกีฬา การท่องเที่ยว และการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจมากมายอีกด้วย ทำให้พี่น้องชาวไทยโดยเฉพาะแฟนวอลเลย์บอลได้มีโอกาสชมและเชียร์ทีมชาติไทย และทีมชาติอื่นๆ ที่อยู่อันดับต้นๆ ของโลกอย่างสนุกตื่นเต้นเร้าใจด้วย"
Happy Chinese New Year 2024 ไทย - จีน ใช่อื่นไกล พี่น้องกัน เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 10.00 น. นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เข้าร่วมงาน "Happy Chinese New Year @ BTS SkyTrain" ณ รถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีพร้อมพงษ์ โดยมี นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เป็นประธาน รมว.สุดาวรรณ กล่าวว่าเทศกาลตรุษจีนเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการท่องเที่ยว สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ที่มีความมุ่งมั่นพลิกโฉมการท่องเที่ยว และตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท ในปี 2567 ควบคู่กับการสร้างมาตรการด้านความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งคาดการณ์ว่าขณะเดียวกัน เทศกาลตรุษจีน ในช่วงวันที่ 8-16 กุมภาพันธ์ 2567 คาดการณ์ว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีน เดินทางเข้าประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 200,000 คน และคาดการณ์รายได้จากการท่องเที่ยวรวมทั้งตลาดต่างประเทศและตลาดในประเทศรวมประมาณ 34,390 ล้านบาท ซึ่งสอดรับกับประเทศไทยได้มีมาตรการยกเว้นวีซ่า หรือ วีซ่าฟรี ให้แก่นักท่องเที่ยวจีน เพื่อกระตุ้นการเดินทางมาท่องเที่ยวมาประเทศไทยให้เพิ่มมากขึ้น และเมื่อเร็วๆ นี้ รัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีน ได้ร่วมลงนามความตกลง และเอกสารสำคัญ ไทย – จีน ว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราซึ่งกันและกัน สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดา และหนังสือเดินทางกึ่งราชการ เริ่มมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป นับว่าเป็นการตอกย้ำ ถึงความสัมพันธ์ 50 ปี ที่มีมาอย่างยาวนาน ระหว่างทั้ง 2 ประเทศ ดั่งคำที่ว่า “ไทย - จีน ใช่อื่นไกล พี่น้องกัน - จง ไท่ อี้ เจีย ชิน”
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 10.00 น. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย จัดประชุมเรื่องแนวทางการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวชาวจีน ประจำปี 2567 ณ โรงแรมแกรนด์ ฟอร์จูน กรุงเทพฯ โดยนายมงคล วิมลรัตน์ รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานฝ่ายไทย ร่วมกับ Ms.Pan Jin อัครราชทูตที่ปรึกษา สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย เป็นประธานฝ่ายจีน มีวาระพูดคุยในประเด็นภาพรวมการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวเที่ยวชาวจีนในประเทศไทย และมาตรการเพื่อดูแลความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวของหน่วยงานต่างๆ อาทิ กรมการขนส่งทางบก กรมเจ้าท่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กรมการท่องเที่ยว กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว รวมถึงสมาคมด้านการท่องเที่ยว สาระสำคัญของการจัดประชุมในครั้งนี้ นอกจากประเด็นมาตรการดูแลความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนแล้ว ยังเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับรองรับนักท่องเที่ยวชาวจีนในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึงซึ่งคาดว่าจะเดินทางมาท่องเที่ยวยังประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ประกอบกับเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาประเทศไทยและจีนได้ร่วมกันลงนามความตกลง ระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตรา ซึ่งกันและกัน นับเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระดับประชาชนของสองประเทศในระยะยาว โดยเฉพาะในการท่องเที่ยวและความสัมพันธ์ไทย - จีน ที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น สำหรับมาตรการการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬานั้น กระทรวงฯ มีการจัดทำโครงการช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่บาดเจ็บและเสียชีวิต เพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในกรณีเกิดอุบัติเหตุ อาชญากรรม และภัยด้านอื่นๆ เป็นการสร้างความเชื่อมั่น และภาพลักษณ์ที่ดีให้กับการท่องเที่ยวของประเทศไทย Ms.Pan Jin ได้กล่าวชื่นชมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ให้ความสำคัญกับการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว มีการประสานความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกันได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทยก็ได้มีการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับกฎระเบียบ ขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมของไทยให้นักท่องเที่ยวได้รับทราบผ่านทุกช่องทาง เพื่อให้นักท่องเที่ยวปฏิบัติตัวในระหว่างเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยได้อย่างถูกต้องเหมาะสม เป็นการเตรียมความพร้อมและลดโอกาสในการเกิดเหตุต่างๆได้อีกทางหนึ่งด้วย นายมงคล กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลไทยให้ความสำคัญและมีนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว โดยเน้นย้ำเรื่องการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวในทุกมิติ รวมถึงแนวทางในการป้องกันความเสี่ยงจากการเดินทาง และการทำกิจกรรมต่างๆ ของนักท่องเที่ยวจีน โดยบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผลการจัดประชุมในครั้งนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะได้นำมาเป็นแนวทางในการดูแลความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวร่วมกันต่อไป
ค.ก.ช.ไฟเขียวไทยชิงเป็นเจ้าภาพแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ “สุดาวรรณ” เผย ค.ก.ช.เห็นชอบเสนอคณะรัฐมนตรีให้ประเทศไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติและระดับโลก 3 รายการ พร้อมชงของบประมาณส่งเสริม "มวยไทย ซอฟต์พาวเวอร์" 1,405 ล้านบาท นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการกีฬาแห่งชาติ (ค.ก.ช) ที่มีนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธาน ได้เห็นชอบให้ประเทศไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติและระดับโลก ประกอบด้วย 1. การแข่งขันยูธโอลิมปีก 2030 (Youth Olympic Games 2030) 2.การแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอล FIVB Women's World Championships 2025 3.การแข่งขัน ISF วอลเลย์บอล U-18 ชิงชนะเลิศ โรงเรียนโลก 2026 โดยมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาความเหมาะสมเพื่อเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาให้ความชอบต่อไป และได้มอบหมายการกีฬาแห่งประเทศไทย ดำเนินการการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอล VNL รอบชิงชนะเลิศ ระหว่างวันที่ 20-23 กรกฎาคม 2567 ทั้งนี้ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถของนักกีฬาไทย สร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กเยาวชน และประชาชนให้ได้เรียนรู้กฎ ระเบียบ กติกา และมารยาท ในการแข่งขัน รวมทั้งเป็นการประชาสัมพันธ์ประเทศไทยและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ ขณะเดียวกัน ที่ประชุมเห็นชอบแนวทางการการขับเคลื่อนแพลตฟอร์มเชื่อมโยงและบูรณาการข้อมูลสถิติการออกกำลังกาย และการเล่นกีฬาของประชาชน Calories Credit Challenge: CCC โดยมอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)กรุงเทพมหานคร และภาคเอกชน ดำเนินการเชื่อมโยงและบูรณาการฐานข้อมูลการออกกำลังกาย และเล่นกีฬา รวมทั้ง มอบหมายกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการออกกำลังกายและเล่นกีฬาผ่านแพลตฟอร์ม CALORIES CREDIT CHALLENGE : CCC ทั้งนี้ แพลตฟอร์ม CALORIES CREDIT CHALLENGE : CCC เป็น แพลตฟอร์ม ที่เชิญชวนให้ทุกภาคส่วนร่วมกันส่งเสริมให้คนไทยออกกำลังกายและเล่นกีฬาอย่างสม่ำเสมอเป็นวิถีชีวิต โดยเชื่อมโยงและบูรณาการข้อมูลให้เป็นระบบนิเวศ (Eco-system) ทางออนไลน์ที่สมบูรณ์ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามแผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติฉบับที่ 7 (พ.ศ.2566- 2570) ประชากรทุกภาคส่วนออกกำลังกายและเล่นกีฬาอย่างสม่ำเสมอไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ภายในปี 2570 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ที่ประชุมยังรับทราบการส่งเสริมนโยบาย Soft Powerด้านกีฬาตามนโยบายรัฐบาลที่มุ่งเน้นการส่งเสริม "มวยไทย ซอฟพาวเวอร์" โดยมีการกำหนดแนวทางการยกระดับมวยไทยไปมวยโลก ในปีงบประมาณ 2567-2568 ซึ่งได้จัดส่งคำของบประมาณสนับสนุนวงเงิน 500 ล้านบาท และ 905 ล้านบาท ตามลำดับ เพื่อมาดำเนินการด้านต่างๆ เช่น การยกระดับค่ายมวย ค่ายมวยไทยพลัส ได้แก่ การจัดทำหลักสูตรมวยไทยเพื่อการท่องเที่ยวการพัฒนาครูมวยไทย การแข่งขัน "มวยไทย ทั่วถิ่นไทย" และการจัดทำทัวร์แพ็คเกจมวยไทย เป็นต้น
ท.ท.ช. เร่งยกระดับสร้างรายได้ท่องเที่ยวปี 2567 “สุดาวรรณ”เผย ท.ท.ช. เห็นชอบแนวทางการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวปี 2567 เตรียมชงคณะรัฐมนตรี พิจารณาโครงการ “One Ministry One Convention” หรือ 1 กระทรวง 1 งานสัมมนา บูมการท่องเที่ยวสำราญทางน้ำแหล่งท่องเที่ยวน้ำพุร้อน การถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในไทย และมหกรรมระดับนานาชาติ นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ท.ท.ช.) ที่มีนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธาน ได้พิจารณาแนวทางการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวปี 2567 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวคุณภาพสูง โดย ส่งเสริมธุรกิจการจัดประชุมสัมมนาและการจัดนิทรรศการ โดยมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเร่งด่วน 2 กิจกรรม ได้แก่ 1. การจัดกิจกรรมประชุมสัมมนาอีเวนต์ขนาดใหญ่ 2.การอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวกลุ่ม MICE และมอบหมายกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอแนวทางการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการประชุมนานาชาติผ่านนโยบาย “One Ministry One Convention” หรือ 1 กระทรวง 1 งานสัมมนา ต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไปขณะเดียวกัน ได้เห็นชอบการส่งเสริมการท่องเที่ยวสำราญทางน้ำ โดยมอบหมายกระทรวง การท่องเที่ยวและกีฬาประสานหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ของประเทศ (บพข.) เพื่อสนับสนุนการจัดทำแผนแม่บทการท่องเที่ยวเรือสำราญ (Thailand Cruise Master Plan) และแผนแม่บทการท่องเที่ยวเรือสำราญและกีฬา (ยอร์ช) (Thailand Yacht Master Plan) และมอบหมายกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง พิจารณาปรับปรุงพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและกฎหมายระเบียบที่เกี่ยวข้องสำหรับการเดินทางเข้าประเทศทางน้ำ รวมทั้งมอบหมายการท่องเที่ยว แห่งประเทศไทยส่งเสริมเส้นทางการท่องเที่ยวในแม่น้ำและลำคลองพร้อมกันนี้ ได้เห็นชอบการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในแหล่งท่องเที่ยวน้ำพุร้อนโดยมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามแนวทางการพัฒนาเส้นทางน้ำพุร้อนเชื่อมโยงกับ แหล่งท่องเที่ยวประเภทอื่นๆ การพัฒนาและยกระดับแหล่งท่องเที่ยวน้ำพุร้อนที่มีศักยภาพให้เป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพน้ำพุร้อน และการส่งเสริมการตลาดและการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานและระหว่างประเทศ ตลอดจนมอบหมายกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาออกแบบเพื่อยกระดับโครงสร้างและระบบบริการแหล่งน้ำพุร้อนสู่จุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวน้ำพุร้อน (Hot Spring Destination) และเมืองสปา (Spa Town) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวต่อไปว่า ท.ท.ช. ยังได้เห็นชอบการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย โดยมอบหมายกรมการท่องเที่ยวดำเนินการขอรับงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย เพื่อชำระเงินคืนให้กับผู้สร้างภาพยนตร์ต่างประเทศที่ได้ถ่ายทำเสร็จแล้วต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป และให้กรมการท่องเที่ยวเป็นหน่วยงานเจ้าภาพ ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามแนวทางการส่งเสริมให้ผู้สร้างภาพยนตร์ต่างประเทศจากทั่วโลกเลือกประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของการถ่ายทำภาพยนตร์ ตลอดจนมอบหมายกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ศึกษายุทธศาสตร์โดยครอบคลุมการจัดตั้งกองทุนภาพยนตร์ต่างประเทศและการพัฒนาทักษะแรงงานในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ นอกจากนั้น ได้เห็นชอบการส่งเสริมการจัดงานมหกรรมระดับนานาชาติ (World Events / Festival) โดยให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การสนับสนุนผู้จัดงานมหกรรมเทศกาลในประเทศไทยในทุกมิติทั้งในรูปแบบเงินสนับสนุนและการอำนวยความสะดวกต่าง ๆ โดยให้สำนักงบประมาณพิจารณาสนับสนุนงบประมาณ เพื่อส่งเสริมการจัดงานมหกรรมระดับนานาชาติในด้านต่าง ๆ และมอบหมายกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอำนวยความสะดวก โดยปรับปรุงขั้นตอนการขอวีซ่าและการยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมวีซ่าสำหรับผู้ประกอบการผู้จัดงานกิจกรรมในระดับนานาชาติ และกลุ่มนักเดินทางเพื่อเข้าร่วมมหกรรมระดับนานาชาติในประเทศไทย ตลอดจนให้สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการเสนอประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการจัดงานมหกรรมระดับนานาชาติ
